Fic snsd : ขอเป็นแฟน(คลับ)เธอได้ไหม? (Yuri)
เมื่อเด็กแว่นหน้าตาพอไปวัดไปวาอย่างแทยอนถูกทิฟฟานี่ เพื่อนสาวร่วมห้องจับแต่งองค์จนเปลี่ยนจากหน้าเท้าเป็นหลังมือ ทำให้ถูกแฟนคลับไล่ตามติด ความHOTเริ่ม ณ บัดนี้แล้ว!!-91%- ขอโทษ....แล้วก็...รักนะ..."
ผู้เข้าชมรวม
4,213
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“กรี๊ดดดดดดดด!!!”
“พี่แทมองมาทางนี้ด้วยแหละแก”
“ทางฉันต่างหาก”
“ฉัน!”
“ฉัน!”
คิมแทยอน เดินจ้ำอ้าวก้าวอย่างไวเพื่อจะได้พ้นรัศมีพวกแฟนคลับของเธอ ร่างเล็กเดินก้มหน้าก้มตาไปเรื่อยๆจนถึงห้องเรียนพอวางกระเป๋าลงก็ต้องหลบไปอยู่บริเวณหลังห้อง มองซ้ายมองขวาราวกับว่ากลัวใครจะมาทำร้ายยังไงยังงั้น
อันที่จริงไม่ถึงขั้นนั้น.....แค่กลัวว่าจะโดนเหล่า FC ผู้น่ารัก(?)ทั้งหลายรุททึ้งก็แค่นั้นเอ๊ง!
ไม่ได้จะอวด แต่ว่ามันเยอะมากจริงๆ
และถ้าถามว่าเรื่องปกติไหม?
ไม่ใช่เลยสักนิด!!
ที่จริงแล้วเธอก็แค่คนธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนไปวันๆ แต่เรื่องมันก็มีอยู่ว่า.....
“แทยอน~ ฉันว่าเธอเลิกใส่แว่นได้แล้ว มาใส่คอนแทคเลนส์ดีกว่านะ”
ฮวังทิฟฟานี่ ชูกล่องคอนแทคเลนส์สีน้ำตาลขึ้นมาแกว่งไปมา พลางหยิมกล่องโน้นทีกล่องนี้ทีมามั่วไปหมด โดยไม่สนใจเลยว่าบุคคลที่เอ่ยถึงนั้นอยากใส่มันบ้างไหม
“ไม่เอาอ่ะ มันน่ากลัวจะตาย”
แทยอนส่ายยดิ๊ก พร้อมขยับแว่นหนากรอบดำที่แลดูเหมือนป้าข้างบ้านให้เข้าที่
อยู่ๆคึกอะไรขึ้นมาอีกนะยัยมิยอง!
ทิฟฟานี่หันมามองตาขวางจนแทยอนขนลุกซู่
“ต้องใส่! นี่คือคำสั่ง!”
“ก....ก็ได้”
เธอเอ่ยเสียงอ่อยและรับถุงที่บรรจุกล่องคอนแทคเลนส์มาอย่างช่วยไม่ได้.....ก็ใครใช้ให้โหดกันเล่า!
แฟนก็ไม่ใช่!
แม่ก็ไม่เชิง!
ก็แค่เพื่อนร่วมห้อง!
แล้วเธอมีสิทธิอะไรมาสั่งฉันห๊ะ ยัยมิยอง!
แต่ทำไมฉันต้องทำตามเธอทุกทีเลย ให้ตายสิ ฮือๆ
(ได้แต่เถียงในใจ)
“อ่อ....ไปตัดผมเหอะ รวบผมซะเหมือนป้าแก่ๆเลยนะแทยอน”
“แต่.....”
แทยอนตั้งท่าจะเถียง
“ไม่มีแต่!!”
โหดชิบเป๋ง.....
“โอ้โหเห๊ะ......”
ทิฟฟานี่เอ่ยหน้าเหม่อๆเมื่อได้เห็นแทยอนเวอร์ชั่นน่ารักเต็มๆตา
“แทยอน....น่ารักอ่ะ”
“อย่ามาชมกันแบบนี้ดิ ขนลุกแปลกๆ”
แทยอนพูดพลางลูบปอยผมที่สั้นลงของตัวเองไปมา ใบหน้าจดจ้องอยู่ที่กระจกบานใหญ่ภายในร้านเสริมสวย แว่นตาอันเก่าถูกโล๊ะทิ้งไปและถูกแทนที่ด้วยนัยน์สีน้ำตาลอ่อน
จะว่าไป......เราก็หน้าตาดีเหมือนกัน หุหุ
“ว่าแต่เธอจะให้ฉันแต่งแบบนี้ทำไมเนี่ย”
“ก็ฉันแค่อยากให้เธอดูแลตัวเองบ้างอ่ะ ไม่ใช่ปล่อยตัวเองให้ซกมกไปวันๆ”
“.......”
เถียงไม่ออกสิคะ
จู่ๆทิฟฟานี่ก็ขมวดคิ้วและเดินตรงมาที่เธอ แววตาใสแวววับนั่นพาให้ฉันใจเต้นแรง.....
“แต่แทยอนน่ารักแบบนี้......ฉันชักจะหวงเธอซะแล้วสิ”
ถ้าถามว่า.....ทำไมถึงยอม?
แน่นอนไม่ใช่เหตุผลประมาณว่า เขาน่ารัก เราเลยยอม....
แต่เพราะยัยหมีบ้านั่นมันโหดเกินคนต่างหากล่ะ!! ข่าวเรื่องต่อยตีก็มีให้เห็นเยอะแยะ แถมเวลาโมโหก็น่ากลัวสุดๆ อารมณ์ขึ้นๆลงๆจนขนาดเพื่อนๆที่สนิทหน่อยยังเดาใจไม่ถูก เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยววีน(ฟังๆไปเหมือนคนบ้า)
ถือเป็นโชคร้ายของเธอเองที่บังเอิญไปเจอทิฟฟานี่ในห้างสรรพสินค้า อุตส่าห์ทำตัวเงียบๆ ไม่ทักไม่คุย แต่ทิฟฟานี่ก็ยังจำหน้าแทยอนได้อยู่ดี ทำให้งานนี้มีแต่ซวยกับซวย เพราะยัยหมีบ้าลากเธอไปโน่นไปนี่ จัดการหาชุด แต่งหน้าทำผมตลอดจนพาเข้าสปาแพงๆ
และถ้าถามว่าทิฟฟานี่ทำไปทำไมน่ะเหรอ?
ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน!!
ก็บอกไปแล้วอารมณ์ขึ้นๆลงๆเดาใจยาก คุณเธอคิดอะไรไม่มีใครรู้หรอก
แถมพอหลังจากนั้นก็หายหน้าหายตาไม่เข้าห้องเรียน ทิ้งให้เขาต้องวิ่งวุ่นตอบคำถามคนโน้นทีคนนี้ทีว่ามีแฟนหรือยัง ทำไมถึงเปลี่ยนลุค หนักๆเข้าก็ยังมีคนถามเลยว่าไปทำศัลยกรรมมารึเปล่า!!
“ฮึ่ม...ยัยมิยองนะยัยมิยอง”
แทยอนเปรยกับตัวเองเบาๆ เพียงแต่....
“เรียกใครว่ามิยองห๊ะ คิมแทยอน!!”
แบบนี้แถวบ้านเขาเรียกว่า ตายยาก!
“เฮ้ย!”
แทยอนร้องเสียงหลงเมื่อหันไปเจอตาใสๆกับใบหน้าเนียนในระยะประชิด เล่นเอาหัวใจอดีตเด็กเนิร์ดสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ก็ถ้ามันจะน่ารักขนาดนี้เนี้ยนะ!!
“เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ”
ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงเย็น
แค่นี้ตัวก็หดเหลือสองมิลแล้วยัยหมีโหดเอ๊ย (สองเซนต์มันเยอะไป)
“....เอ่อ....ม...มิยองน่ะ แหะๆ”
เธอเงียบไปสักพักนึง แต่ยังคงจ้องมองฉันอย่างไม่วางตา
ก่อนจะยิ้มกว้างแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยให้แทยอนได้หัวใจได้ออกกำลังกายขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ดี.....ฉันชอบ ต่อไปนี้เธอต้องเรียกฉันว่ามิยองเท่านั้นนะ คิมแทยอน”
“อ้าว ปกติไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อนี้ไม่ใช่เหรอ”
แทยอนเอ่ยถามอย่างงุนงง ตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะแม่คุณ!
“ใช่....แต่เธอคือข้อยกเว้น”
“ทำไมอ่ะ”
แล้วจู่ๆทิฟฟานี่ก็ขมวดคิ้วแล้วตวาดเสียงดัง เหมือนสับสวิตช์ทันทีที่มีคนพูดไม่ถูกใจ
“อย่าถามมากได้มั๊ย! ข้อยกเว้นก็คือข้อยกเว้น! ไปล่ะ”
ฮะ เฮ้ย จะมาก็มาจะไปก็ไปเลยเรอะ งงนะเว้ย!
“พี่แทยอนอยู่นั่นไง! ไปเร็วพวกเรา!”
เฮ้ย!!!
ฝูงแรด(?)ตามมาเจออีกแว้ววววววว
“อย....อย่าเข้ามาน๊า~!”
พูเสร็จแทยอนก็รีบใส่เกียร์หมาออกวิ่งทันทีที่เห็นเหล่าแฟนคลับแห่กันเข้ามาทางหน้าห้อง
มาหน้าห้องก็ออกหลังห้องสิวะ!!
พอเปิดประตูเท่านั้นแหละ คนนับสิบก็รีบเข้ามาจับจองแย่งกันถ่ายรูปกันให้ขวัก
เวร!!
ทั้งโดนลูบโน่นลูบนี่ ของขวัญกล่องให้ถูกหยิบยื่นเข้ามาจนรับแทบไม่ทัน แสงแฟรทวูบวาบชวนให้มึนหัว
ทั้งหมดนี่มันจะไม่เกิดขึ้น.....ถ้าไม่ใช่เพราะ
..
“ยัยหมีบ้า!!!!”
“นี่ ยัยฟานี่ วันนี้ลืมกินยาเขย่าขวดรึไงห๊ะ นั่งยิ้มอยู่ได้”
จองเจสสิก้า เอ่ยอย่างประหลาดใจเมื่อร้อยวันพันปี ทิฟฟานี่เพื่อนสาวผู้ยิ้มยากของเธอไม่เคยจะมานั่งยิ้มเหมือนคนบ้าแบบนี้เลยสักครั้ง
คนเนี้ย....เขาฮอต สาวติดตรึม
แต่ก็ไม่เคยมานั่งยิ้มคนเดียวเหมือนคนกำลังอินเลิฟแบบนี้หรอกนะ!!
“พอดีวันนี้เจอคนน่ารักๆมาอ่ะดิ”
“แกล้อฉันเล่นป่ะ? ใครจะทำแกเพ้อได้ขนาดนี้วะ”
ทิฟฟานี่หันมายิ้มตาปิด
“ความลับ.....บอกได้แค่ว่าน่ารักมากๆอ่ะ เห็นแล้วใจเต้นแรงยังไงไม่รู้”
“โอเค โหวตสี่สิบห้าจากห้าสิบคน เป็นอันว่า คิม แทยอนจะต้องขึ้นไปร้องเพลงในงานโรงเรียนปีนี้นะ”
“เย้!!”
เกือบทั้งห้องพากันโห่ร้องแสดงความยินดี ยกเว้นเจ้าตัวที่นั่งซึมกระทือเหมือนโลกจะแตกเอาในวันพรุ่งเสียให้ได้
......เสนอชื่อ......ลงคะแนนตามความคิดเห็นส่วนใหญ่ของห้อง
แล้วทำไมไม่ถามฉันบ้างว่าอยากทำมั๊ย?
“เอาน่าแท ฉันรู้ว่าแกไม่อยากขึ้นไปร้องเพลงหรอก แต่ในห้องไม่มีใครเสียงดีเท่าแกอีกแล้วนะเว้ย”
ควอน ยูริ เพื่อนสาวเกือบแท้เอ่ยปลอบใจ คงจะมีแต่ยูรินี่แหละที่เข้าใจเขาทุกเรื่อง ไม่กดดันไม่คาดหวังเหมือนคนอื่นๆที่ไม่รู้จักเขาจริงๆ
“เฮ้อ.....แต่ว่ายังไงก็ไม่อยากขึ้นอยู่ดีว่ะ”
“แต่ฉันว่าคงมีคนรอดูแกเยอะเลยมั้ง”
“......มีแฟนคลับเยอะไม่เห็นจะน่าดีใจตรงไหน”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็ดูดิ....พอตอนที่ฉันไม่ทำผมไม่แต่งตัว พวกเขาก็พากันเมิน ต่อให้ร้องเพลงดีแค่ไหนก็ไม่ดัง....แล้วพอฉันเปลี่ยนตัวเอง....ทุกคนก็พากันหลงแค่หน้าตาฉัน.....ไม่เห็นจะมีใครชอบฉันนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกเลยสักคน
.”
พูดง่ายๆคือน้อยใจนั่นแหละ
“เอาน่ะ.....เรื่องแบบนี้มันปกติ ทำใจเหอะ”
“อือ....”
แทยอยเบือนหน้าหนีไปนอกหน้าต่าง
คิดๆแล้วก็อยากเป็นนกยังไงชอบกล อิสระ ล่องลอยไปตามใจตัวเอง....ไม่ต้องสนว่าใครจะมองแบบไหน แค่มีชีวิตสงบๆ ไม่วุ่นวาย ง่ายๆ ไม่ต้องถูกเพ่งเล็ง
น่าอิจฉาชะมัด.....
พลันใบหน้าหวานๆของใครบางคนก็แวบเข้ามาในหัว....ใครบางคนที่มีตายิ้มอันน่าหลงใหล
ไม่ยึดติด....ทำอะไรตามใจตัวเอง คนแบบนั้นก็น่าอิจฉาเช่นกัน
แล้วก็เผลอยิ้มออกมาบางๆอย่างไม่รู้ตัว.....
“แทยอน อย่าผิดคีย์นะเว้ย”
“รู้แล้วน่า”
แทยอนเอ่ยตอบรับแบบปัดๆ แม้ว่าในใจนั้นเต้นตูมตามมือเย็นชืดด้วยความตื่นเต้นไปถึงไหนต่อแล้วก็ตาม
จะร้องออกไหมเนี่ย
ร่างเล็กถูมือตัวเองเผื่อว่าจะลดความตื่นเต้นได้บ้าง หากมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด ยิ่งมองไปทางเหล่าคนที่ยืนติดขอบเวทีแล้วใจก็ยิ่งฝ่อ
“ไปห้องน้ำแปปนะยูริ”
“เร็วๆล่ะ เดี๋ยวต้องขึ้นแล้ว”
ตายๆๆ จะไปรอดไหมงานนี้
แทยอนสำรวจตัวเองในกระจกเพิ่อความมั่นใจ แต่ยังไงก็ยังหยุดใจที่มันเต้นแรงไม่ได้สักที
“แกจะกลัวอะไรวะ แทยอน”
เขาพูดกับตัวเองเบาๆ
“นั่นสิ แล้วเธอจะกลัวอะไรล่ะ”
“เฮ้ย!!”
จู่ๆทิฟฟานี่ก็เดินเข้ามาปุปปับจนแทยอนหัวใจแทบหยุดเต้น
โผล่แต่ละทีเหมือนผียังไงชอบกล!!
“ชอบไม่ใช่เหรอ ร้องเพลงน่ะนะ”
“มันก็ใช่ แต่ว่า...”
“แต่ไม่ชอบให้ใครมากดดัน?”
อ่านใจคนได้เหรอวะเนี่ย
“ก็ประมาณนั้น”
“ถ้างั้น.....”
จุ๊บ....
“ฮะ เฮ้ย”
หะ....หอมแก้ม!??
“สำหรับกำลังใจ....ส่วนนี่”
จุ๊บ......
“สำหรับความน่ารักของ ‘แท’ แล้วกันนะ.....”
พูดจบเธอก็ยิ้มตาหยีแล้วก็เดินจากไปอย่างเช่นทุกที.....
แทยอนลูบแก้มทั้งสองข้างอย่างเหม่อๆ หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่คิดถึงเวทีเสียอีก....
อารมณ์ไหนเนี่ยแม่คุณ!!
“เฮ้ยแท....ฉันว่าแกหน้าแดงๆนะ ไม่สบายรึเปล่า”
“ปะ....เปล่านี่”
แทยอนพูดโดยไม่ยอมสบตายูริและเดินผ่านไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หน้าเราแดงเหรอ? ไม่จริงอ่ะ
เขาคิดแล้วยกมือลูบแก้มทั้งสองข้างไปมาหวังว่ามันจะหายแดงลงบ้าง สูดหายใจเข้าลึกๆสองสามทีเพื่อสงบสติอารมณ์
“แท ขึ้นเวทีได้แล้ว”
“รู้น่ะ”
ร่างเล็กลูบหน้าอกตรงตำแหน่งหัวใจเบาๆ แล้วก้าวขึ้นเวทีไปในที่สุด
กรี๊ดดดดดดดดด!!
พอก้าวขึ้นนเวทีเท่านั้นแหละ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นเสียจนเขาต้องอุดหูเอาไว้
กรี๊ดขนาดนี้ขึ้นมาร้องเพลงเองเลยมั๊ย!!
หากเมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น เสียงกรี๊ดนั้นก็เงียบลงเหลือแต่เพียงความเงียบและเสียงหวานกังวานของสาวร่างเล็ก เสียงเปียโนค่อยๆบรรเลงไปอย่างเชื่องช้าพร้อมกับท่วงทำนองที่ไพเราะเสียจนทุกคนในบริเวณพากันมองมาที่เขา
แทยอนหลับตาลงแล้วค่อยๆขับร้องออกมา แม้ว่าเขาจะตื่นเต้นเพียงใด แต่น้ำเสียงนั้นก็ยังสามารถสะกดทุกคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
รวมถึงใครบางคนที่จ้องมองเขาในมุมๆหนึ่งเช่นกัน.....
แปะๆๆๆๆ
“กรี๊ด!! พี่แทยอน!!”
เมื่อเสียงเพลงจบลง เขาก็รีบลงจากเวทีทันทีเพราะไม่อาจจะทนเสียงที่ดังกระหึ่มไปทั่วฮอลล์ได้
“แท.....สุดยอดเลยว่ะ ฉันนึกว่านักร้องตัวเป็นๆมาเองซะอีก”
“เฮ้อ....เกือบเอาตัวไม่รอด”
ร่างเล็กยกขวดน้ำขึ้นมาดื่มแก้คอแห้ง กะว่าจะรีบชิ่งกลับก่อนที่จะมีคนมาเห็นตัว ไม่งั้นงานนี้คงไม่ต้องกลับบ้านแล้วล่ะ เนื่องจากพอร้องเพลงเสร็จแล้วเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก สู้กลับไปนอนตีพุงที่บ้านเลยดีกว่าเยอะ
แต่มันไม่ง่ายกว่าที่คิดน่ะสิ!!
“พี่แทยอนนี่นา! พวกเราพี่แทยอนอยู่นี่!!”
“เฮ้ยยยยยยยยยยย”
มีอยู่ทุกมุมของโรงเรียนเลยวุ้ย!!
“พี่รับดอกไม้ฉันด้วยนะคะ”
“ไม่ พี่รับของฉันดีกว่าค่ะ”
“นี่เธอ! ฉันเห็นพี่เค้าก่อนนะ เธอน่ะมาทีหลัง!!”
“อะไรยะหล่อน อย่างเธอน่ะต้องไปส่องกระจกก่อนจะมายืนต่อหน้าพี่แทยอนเหอะ”
“อ๊ายยยยยยยยยยยย อินี่ วอนโดนตบซะแล้ว!”
“เรียกฉันว่าอีเหรอ มาดิๆ คิดว่ากลัวเหรอ”
“ตายซะเถอะแก๊!!”
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
ผัวะๆๆๆๆ
.....งานนี้โทษคิมแทไม่ได้น้า เค้าไม่เกี่ยว ~
หากการตบกันเพื่อแย่งชิงหมาน้อยนั้นก็ต้องยุติลงเพราะการปรากฏตัวของใครบางคน
“พวกเธอสองคนไม่ต้องเถียงกัน.....แทยอนน่ะ....ของฉันคนเดียว”
!!??...
“พะ.....พี่ทิฟฟานี่”
หญิงสาวนางหนึ่งที่ร่วมสมรภูมิรบเอ่ยเสียงสั่นๆ มือที่กำลังดึงทึ้งผมอีกฝ่ายรีบปล่อยทันที
“พี่หมายความไงคะ”
“หึ....แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? จะบอกให้เอาบุญนะ.......แทยอนคือของฉัน”
แทยอนมองหน้าทิฟฟานี่เหวอๆ
ฉันไปเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ งงว่ะเฮ้ย
ทิฟฟานี่หันมายิ้มหวานแต่กลับน่ากลัวในความรู้สึกของแทยอนเสียเหลือเกิน เธอเดินเข้ามาควงแขนเขาเหมือนจะต้องการเย้ยสองสาวที่มองด้วยความอิจฉาริษยา
“เข้าใจแล้วก็รีบไปสักทีสิ ยืนบื้ออยู่ทำไม”
“ค...ค่ะ”
ทั้งสองคนรีบกุลีกุจอออกไปโดยเร็วเมื่อได้เห็นสายตาเย็นๆของร่างบาง เมื่อสองสาวออกไปแล้วแทยอนก็รีบแกะมือทิฟฟานี่ออกทันที
ไม่ใช่รังเกียจหรอกนะ.....แต่ได้ข่าวว่าเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนี่
“เธอทำแบบนี้ทำไม”
“......ไม่รู้”
เอ๊ะ ยังไงเนี่ย
“ทำแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นอะไรกันไปหมดหรอก”
“ก็ปล่อยให้เขาเข้าใจไปสิ”
“ทิฟฟานี่.....เธอชักจะพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วนะ”
“ใช่ ฉันมันเป็นคนไม่มีเหตุผล
.แล้วอีกอย่าง....ทำไมแทไม่เรียกฉันว่ามิยอง”
“ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอพูดด้วย”
แทยอนเริ่มขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ที่เริ่มขุ่นเคืองนิดๆ
ใช่ ทำไมฉันต้องทำตามเธอด้วย ไม่จำเป็นเลยสักนิด
“ใช่สิ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับแทนี่”
ทิฟฟานี่เบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความเจ็บในใจนิดๆ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกอะไรแบบนี้ ยิ่งคิดถึงตอนที่ทุกคนต่างมองแทยอนด้วยความหลงใหลและชื่นชม เธอยิ่งไม่อยากยืนดูเลยจริงๆ แถมยังทำตัวงี่เง่าไร้เหตุผลแบบนี้.....ไม่ชอบเลยให้ตายสิ
แทยอนมองทิฟฟานี่ที่ฉายแววเหมือนจะน้อยใจอย่างมึนงง ไม่เข้าใจในเพื่อนสาวคนนี้เลย อยู่ใกล้กันมาตั้งนานแต่ไม่เคยจะเข้าไปทักไปคุยจริงๆเลยสักครั้ง นิสัยก็ออกจะประหลาดๆ ทำตามใจตัวเอง ไม่ค่อยมีเหตุผล อีกทั้งยังมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆเหมือนคนวัยทองยังไงยังงั้น
“ก็ใช่น่ะสิ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย เธอถึงทำแบบนี้ไม่ได้น่ะ”
“........”
ร่างบางเม้มปากเป็นเส้นตรง แค่คำพูดเล็กน้อยทำไมถึงทำให้ฉันเจ็บแปลบขนาดนี้นะ เธอเดินจากไปด้วยความอัดอั้นและสับสน
แทยอนมองประตูที่ร่างบางเดินออกไป ในใจเริ่มมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามารบกวนจิตใจของเขาให้รู้สึกผิดไปจากแต่ก่อน......
เราพูดแรงไปหรือเปล่านะ?
“ยังไงของแกกันแน่เนี่ย เมื่อวานเห็นนั่งยิ้มเป็นบ้าเป็นหลัง แล้วไหงวันนี้ถึงได้มานั่งซึมได้ห๊ะ”
ทิฟฟานี่ไม่ตอบ ในใจยังคงคิดวนเวียนถึงคำพูดนั้นซ้ำๆ
ทำไมฉันถึงต้องคิดมากแบบนี้ด้วยนะ...
เจสสิก้ามองดูเพื่อนสาวนั่งที่เหม่อลอยอย่างเหนื่อยใจ
“อย่าบอกนะว่าโดนหักอกมา”
เงียบ...อันที่จริงก็ไม่ได้ถึงกับโดนหักอกมาหรอก เพียงแต่ว่าแทยอนยังไม่รู้ว่าทิฟฟานี่คิดยังไง แถมทิฟฟานี่เองก็ยังไมรู้ความรู้สึกของตัวเองอีกต่างหาก งานนี้เธอเลยได้แต่นั่งมึนไปไม่เป็น อยากบอกเพื่อนสาวใจแทบขาด แต่อีกใจหนึ่งก็อยากเก็บเอาไว้ก่อนแล้วค่อยบอกออกไป
“เปล่า.....”
ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงอ่อยให้เจสสิก้ามองแล้วถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก
จะอะไรกันนักกันหนานะยัยเพื่อนบ้านี่หนิ!!
“ฉันไม่เชื่อแกหรอก ถ้าไม่ได้โดนหักอกแล้วเป็นอะไร”
“ไม่รู้เหมือนกัน.....”
"หรือว่า.... คนที่แกบอกว่าน่ารักเหรอ"
"....."
ชัวร์เลย!!
"เคยบอกเค้ารึยังว่าคิดไง"
"คิดยังไง? คิดอะไร"
ทิฟฟานี่หันมามองอย่างไม่เข้าใจ เจสสิก้าต้องถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย
สมองนี่มีไว้คั่นหูใช่มั๊ยถึงได้คิดอะไรเองไม่เป็นน่ะหา!!
"โอ๊ย ฉันล่ะเซ็งแกจริงๆเลย"
"....."
"แกชอบเค้ารึเปล่าล่ะ.....ถ้าชอบ....ก็รีบไปบอกเค้าเซ่!! เก็บไว้แล้วเค้าจะรู้มั๊ยล่ะ อิโง่!"
"หืม?.....ช็อกโกแลตใครเนี่ย?"
แทยอนหยิบกล่องสี่เหลี่ยมสีทองขึ้นมาพลิกไปรอบๆด้วยความสงสัย พลันสายตาก็ไปสะดุดกับตัวอักษรเล็กๆ
'หวังว่าเธอจะชอบนะ แทยอน : )'
ให้เราเหรอ?
แทยอนหันมองไปรอบๆเผื่อว่าเจ้าของช็อกโกแลตชิ้นนี้จะยังมองดูเธออยู่ ร่างเล็กอมยิ้มบางๆกับการทำตัวลึกลับของใครคนนี้
ก็คงเป็นแฟนคลับล่ะมั้ง.....
เธอเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อนจะเดินกลับบ้านตามปกติ
เมื่อเห็นแทยอนออกไปแล้วทั้งสองสาวก็เดินออกมา ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วน้อยๆ
"ทำไมไม่ให้ฉันบอกไปตรงๆเลยอ่ะ"
เจสสิก้าจิ๊ปากอย่างขัดใจ
"เธอจะเดินไปบอกเขาตรงๆเลยรึไงห๊ะ เดี๋ยวก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บกลับมาหรอก สมองมีหัดคิดนิ๊ดนึง"
"อ่าห๊ะ วันนี้เธอแรงอ่ะเจส"
"อ่ะแน่น๊อน"
เจสสิก้ารับคำอย่างไม่ใส่ใจนัก สมองเริ่มคิดหาทางให้เพื่อนสาวสารภาพรักแบบสำเร็จชัวร์ๆร้อยเปอร์เซ็นต์ให้ได้ จับขังห้องมืดสองต่อสองเลยดีไหมนะ? หรือว่าใส่มอมยาแทยอนแล้วจัดฉากให้เหมือนมีอะไรกันแล้วดี? ไม่สิๆ น่าจะให้มีอะไรกันไปเลยดีกว่าจะได้แก้ตัวไม่ได้ แล้วหลังจากนั้นก็ถ่ายรูปเอาไปเผยแพร่จะได้ดิ้นไม่หลุด อิอิ แผนเริ่ดค่ะ!!
ทิฟฟานี่มองเจสสิก้าที่นั่งขำคนเดียวอย่างหวาดๆ
พึ่งได้จริงป่ะเนี่ย?
"เอ่อ....ฉันว่าฉันคิดเองดีกว่านะ"
"แผนเธอมันจะไปได้เรื่องอะไรเล่า ฉันคิดออกแล้วน่ะ แค่ทำตามฉันก็พอ"
เฮ้อ....จะได้เรื่องจริงๆเร้อ?
แทยอนนั่งมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอย่างคนใจลอย คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย แต่สุดท้ายก็มาจบลงที่ใบหน้าเศร้าของทิฟฟานี่ทุกที......ทำไมกัน? อย่าบอกนะว่าเราชอบยัยมิยองคนเอาแต่ใจนั่น ไม่จริงอ่ะ เราอาจจะแค่หวั่นไหว
......ใช่ เราแค่หวั่นไหวเท่านั้นเอง
"แท....วันนี้ว่างมั๊ย”
"ม...มิยอง"
คนโดนเรียกโดยไม่ทันตั้งตัวตั้งสติสะดุ้งโหยงเมื่อคนในความคิดกลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ ทำให้หลุดเรียกชื่อที่ชอบใช้เวลาอยู่คนเดียวไปจนได้ อาการนั้นทำให้คนฟังยิ้มแฉ่ง
"คือว่า.....ฉันยังไม่มีคู่ทำงานเลยอ่ะ แทมีคู่หรือยัง"
งาน? งานไรหว่า มัวแต่นั่งเหม่อไม่ได้สนใจเรียน
"ก็ยังนะ"
"งั้นเราคู่กันนะ"
".....อืม....ก็ได้"
"งั้นเย็นนี้ไปที่บ้านฉันนะ ไปช่วยทำงานหน่อย"
".....อืม.....ก็ได้"
"เหมือนไม่เต็มใจ"
ทิฟฟานี่แสร้งทำเสียงเศร้าเล็กน้อย แทยอนเห็นดังนั้นก็รีบโวยวายกลัวว่าร่างบางจะน้อยใจ
"ไม่ใช่นะ! ฉันเต็มใจไปอยู่แล้ว"
"จริงนะ"
"อื้อ"
"โอเค งั้นวันนี้เดินกลับบ้านพร้อมกัน ไปแระ"
แทยอนมองตามทิฟฟานี่ที่กลับไปนั่งโต๊ะของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ และแล้วก็เกิดคำถามที่เจ้าตัวหาคำตอบไม่ได้ขึ้นจนได้.....ทำไมฉันต้องใส่ใจความรู้สึกเธอด้วยนะ...มิยอง
โดยไม่รู้เลยว่าคนที่เคยทำหน้าเศร้ากลับแอบยิ้มขำกับตัวเองเงียบๆ
สำเร็จไปหนึ่งขั้น!!
“แกก็แค่ใส่ยานี่ลงไปในน้ำแล้วให้เค้าดื่ม จากนั้นก็จัดฉากว่าโดนปล้ำ แค่เนี้ย ง่ายออก”
“เอาจริงอ่ะ”
“หรือแกไม่ชอบแทยอนแล้ว”
“ก็ชอบ”
“งั้นแกก็ทำซะ”
“แล้วนี่ยาอะไร”
“ยานอนหลับไง”
“เฮ้อ.....”
ทิฟฟานี่นั่งถอนหายใจกับตัวเอง แผนของเจสสิก้ามันก็น่าจะเวิร์คอยู่หรอก แต่ทำแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ? ถ้าแทยอนรู้ความจริงขึ้นมาเรื่องไม่ยิ่งใหญ่โตไปมากกว่านี้หรือไงนะ.....ร่างบางมองแก้วน้ำที่ใส่ยาอะไรซักอย่างที่เพื่อนสาวให้มาอย่างไม่แน่ใจ.......รักก็รัก.....แต่ก็ไม่อยากทำผิด
เอาวะ! ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว!
ทิฟฟานี่ยกแก้วน้ำไปให้แทยอนซึ่งตอนนี้นั่งทำงานเงียบๆอยู่ในบ้านของสาวตายิ้ม ตัดความรับผิดชอบชั่วดีออกไปเสียให้หมด.....เพื่อให้ได้เขามาครอบครอง......อะไรก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ
ทั้งสองต่างนั่งทำงานเงียบๆ เพียงแต่ทิฟฟานี่กลับกระสับส่ายอยากห้ามไม่ให้ร่างเล็กดื่มใจแทบขาด อยากจะห้ามแต่ก็ไม่กล้าพอ
จนแล้วจนรอดคนตัวเล็กก็ดื่มมันแก้กระหายจนได้
แต่แทนที่แทยอนจะหลับตามที่เธอหวังไว้ กลับมีอาการแปลกๆให้เธอเริ่มกังวลกับอาการของเขา เหงื่อผุดขึ้นเยอะขึ้นและเยอะขึ้น ร่างเล็กหายใจหอบถี่จนเธออดถามออกไปด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“แท เป็นอะไรรึเปล่า”
ถามไปก็กระดากปากแปลกๆ
แทยอนตอบเสียงสั่น
“มะ.....ไม่....ไม่เป็นไร.....”
ตุบ....
“แท!!”
จู่ๆแทยอนก็ร่วงลงไปกองกับพื้นส่วนทิฟฟานี่ก็รีบเข้าไปดูอาการด้วยความตกใจ
ตกลงนี่มันยานอนหลับแน่เหรอเนี่ย!!
ร่างเล็กคว้าข้อมืออีกคนเอาไว้อย่างทรมาน ภายในร่างกายเกิดความร้อนที่ไม่อาจหาสาเหตุได้ตีขึ้นมาจนแทบจะทนไม่ไหว.......รู้เพียงอย่างเดียวเธอต้องทำอะไรสักอย่างให้มันหายไปเสียที
และแล้วสิ่งที่แม้แต่ทิฟฟานี่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อแทยอนผลักเธอลงโซฟาอย่างรวดเร็ว แววตาเขาดูเลื่อนลอยคล้ายคนไม่มีสติ
“แทจะทำ.....อุ๊บ!!!”
ความความหอมหวานถูกส่งเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ริมฝีปากร้อนบดเบียดกันจนทั้งคู่ไม่อาจยั้งสติได้อีก แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถจะบังคับตัวเองให้ดันคนด้านบนออกไปได้
สุดท้ายความปรารถนาก็เข้าครอบงำทั้งสองให้บรรเลงบทเพลงแห่งความรักไปพร้อมๆกันตลอดคืน.....
“อือ....”
แทยอนตื่นขึ้นมาแล้วนวดขมับเนื่องจากอาการปวดหัวแปลกๆ โซฟาแข็งๆทำให้เธอต้องบิดขี้เกียจ แต่เมื่อมองไปรอบๆแล้วก็ต้องตกใจ
ที่นี่ไหนวะเนี่ย!
พอมองสำรวจตัวเองที่ไร้อาภรณ์ตลอดทั้งตัวก็รับดึงผ้าห่มผืนเล็กมาคลุมไว้ สติที่ยังไม่ดีนักไม่อาจเรียบเรียงเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้ ........เมื่อคืน อย่าบอกนะว่า
“ตื่นแล้วเหรอ”
เสียงหวานๆพร้อมกับร้อยยิ้มสะกดใจปรากฏขึ้น แทยอนคิดอะไรไม่ออกสมองเกิดตื้อขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
“ทะ....ทิฟฟานี่”
ร่างบางทำเป็นเมินท่าทางเช่นของแทยอนแล้วปั้นหน้ายิ้มต่อไป วางข้าวต้มที่ตัวเองตั้งใจทำเอาไว้ตรงหน้าเธอ.......
“อย่าบอกนะว่าเมื่อคืน....”
“อย่างที่แทคิดนั่นแหละ...เราสองคน....”
“ไม่จริง เธอโกหก!!”
เพล้ง !!!
เสียงชามตกกระแทกพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆเหมือนหัวใจของคนฟัง....เธอพูดไปโดยไม่คิด.....แต่คนฟังกลับเจ็บ....
ถ้าทำตามแผนของเจส.......ฉันก็ควรจะรั้งเธอไว้
แต่ถ้าทำตามจิตสำนึกของตัวเอง.....ฉันคงต้องปล่อยเธอไป
“.....ฉันรู้ว่าแทไม่อยากมารับผิดชอบคนอย่างฉันหรอก.....ไม่มีใครอยากรับผิดชอบคนที่ตัวเองไม่รัก”
บ้าเอ๊ย......ทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วยนะ ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่รึไงว่ามันต้องเป็นแบบนี้
ทิฟฟานี่พูดต่อทั้งน้ำตา....
“ขอโทษที่ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตแท....จากนี้ฉันจะไม่ขอเรียกร้องอะไรอีก จะไม่ขอให้แทรับผิดชอบ.....และจะไม่ทำตัวงี่เง่าด้วย.......แต่แทอย่าเกลียดฉันเลยนะ.....”
แทยอนนิ่งอึ้งกับน้ำตาของสาวตายิ้ม อยากเข้าไปปลอบใจจะขาด แต่เพราะอารมณ์ที่คุกกรุ่นทำให้เธอพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจออกไป.....
“รู้ตัวก็ดีแล้ว
..เธอพูดแล้วนะว่าจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก......ทำให้ได้อย่างที่พูดด้วยแล้วกัน”
พูดจบแทยอนก็รีบใส่เสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินจากไป.....
ทิ้งให้ใครอีกคนต้องนอนจมน้ำตาตัวเองพร้อมกับรอยแผลที่ไม่อาจหวนคืน....
ปัง!!
“ละ....เลวที่สุด!!”
“ฉันว่าแกยิ่งกว่าเค้าอีกนะสิก้า....”
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวที่ได้เล่ามาพอสังเขปแล้วเจสสิก้าก็พูดพร้อมทุบโต๊ะเสียงดังลั่น หากทิฟฟานี่ก็พูดขัดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก สาวผมบลอนด์จึงได้แต่หัวเราะแหะๆในลำคอแบบหวาดๆ
บทจะโหดก็โหดจริงวุ้ย!!
“เอ่อ....ขอโทษตอนนี้ยังทันมั๊ยอ่ะ”
“ช่างมันเหอะ”
ทิฟฟานี่บอกปัดๆอันที่จริงมันก็น่าโกรธอยู่ไม่หยอกเชียวแหละ เพียงแต่เธอก็มีส่วนผิดพอๆกันจึงไม่อาจจะว่าเป็นความผิดของเพื่อนสาวได้ทั้งหมด
แล้วอีกอย่าง......ถ้าเขาไม่รักเราต่อให้ทำยังไงมันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดีล่ะนะ
อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด......อะไรที่จะเสียก็ต้องเสีย
ความรักบังคับให้เกิดไม่ได้....คงอยู่ที่ตัวเราว่าจะจัดการกับมันยังไงก็เท่านั้น
“เกินไปว่ะ ทั้งแกทั้งยัยมิยองของแกด้วย ทำไมทำอะไรไม่รู้จักคิดสักนิดนึงล่ะวะ””
ยูริตำหนิเพื่อนสาวที่ใจนั่งเหม่อลอยไปไกลถึงใบหน้าของหญิงสาวที่โดนพึ่งทำร้ายจิตใจไปหมาดๆ เธอมองแทยอนอย่างไม่รู้จะช่วยยังไงดี เพื่อนเธอก็ผิด ส่วนอีกคนนึงก็ใช่ย่อย ต่อไปนี้จะเอายังไงก็คงต้องแล้วแต่เจ้าตัวเองแล้วล่ะ
ทางฝั่งโน้นไม่ต้องพูดถึง.....คงตัดใจไปแล้วเรียบร้อย.....ก็โดนไปซะขนาดนั้นน่ะนะ
“เฮ้อ....แล้วแต่แกแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าฉันยุ่งอีก”
อันที่จริงแล้วพวกเธอไม่ได้อยู่ในห้องเรียนคาบแรกอย่างที่ควรเป็น เพราะแทยอนเกิดอยากอยู่คนเดียวขึ้นมา เธอจึงได้มาลองไต่ถามดูแล้วถึงได้รู้สาเหตุที่หมาน้อยมานั่งหงอยอย่างกับเจ้าของไม่ใส่ใจ
ความรักนี่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ ทั้งที่เจ้าตัวก็แสดงอาการชัดขนาดนี้แล้วยังซื่อบื้อไม่รู้ว่ารักเค้ารึเปล่าเสียอีก ถ้าไม่รักจะมานั่งคิดมากให้รกสมองทำไมก็ไม่รู้ หรือบางทีชอบพูดถึงเค้าบ่อยๆแต่ก็ยังไม่รู้ตัว จะเรียกว่าบื้อหรือโง่ก็ไม่อาจทราบได้
“อยากอยู่ตรงนี้ก็อยู่ไปละกัน ฉันไปเรียนก่อนล่ะ วันนี้ทิฟฟานี่ก็อยู่ที่ห้องด้วย”
ก่อนที่ยูริจะได้ไปข้อมือของเธอแทยอนรั้งเอาไว้
“......ไปด้วย
.”
“แต่เค้าคงไม่อยากเห็นหน้าแกหรอกว่ะ”
“แต่.....ฉันอยากเห็นหน้าเธอนี่”
แทยอนพูดพลางหลบตามองพื้น ยูริเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
“รู้ใจตัวเองแล้วรึไงห๊ะถึงอยากเจอเค้าอ่ะ”
“ไม่รู้ก็คงต้องไปไถนาแล้วแหละ”
“เออดี ด่าตัวเองก็เป็น ฮ่าๆ”
“หยุดขำแล้วช่วยคิดหน่อยดิ ทำไงเธอถึงจะหายโกรธวะ”
แทยอนขมวดคิ้วมุ่นอย่างคิดไม่ตก ก็ทำร่างบางเสียใจขนาดนั้นจะเดินดุ่มๆไปขอโทษมันก็ยังไงอยู่
“เอาหูมานี่ๆ”
“อ่าห๊ะ.....เออ....ความคิดดีวะ”
แทยอนหันไปยิ้มให้ยูริอย่างเจ้าเล่ห์
“จัดไปอย่าให้เสีย!!”
“ยัยฟานี่ พรุ่งนี้จะวันเกิดแกแล้วอ่ะ อยากได้ไรป่ะ เดี๋ยวฉันซื้อให้”
เจสสิก้าถามทิฟฟานี่ที่นั่งทำหน้าซังกะตายตั้งแต่เช้าจรดเย็น หวังว่าเรื่องงานวันเกิด จะทำให้ลืมเรื่องของยัยบ้าเตี้ยแทยอนนั่นไปได้ซักนิดก็ยังดี.....
“อืม....อะไรก็ได้”
สาวผมบรอนด์จิ๊ปากอย่างขัดใจ ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนเธอจะเป็นเอามากขนาดนี้ ปกติถึงวันเกิดทีไรก็ร้องจะเอาอันโน้นจะเอาอันนี้ให้เธอได้บ่นรำคาญบ่อยๆ แล้วดูสิ พอโดนไอ้บ้านั่นทำร้ายจิตใจมาหน่อยก็ซึมกระทือเหมือนหมีอดน้ำผึ้งซะแล้ว
“โอ๊ยยยยย หยุดทำหน้าแบบนี้สักทีได้มั๊ยห๊ะยัยหมีอ้วน! ฉันเห็นแล้วเซ็งแทน!”
“ก็มันไม่อยากได้อะไรนี่....”
“ไม่มีจริงๆอ่ะของที่แกอยากได้ จริงๆนะ ถ้าแกอยากได้อะไรฉันจะเอามาให้หมดเลย ไถ่โทษที่ฉันทำให้แกต้องเสียใจ”
“....”
ทิฟฟานี่หันมามองเธออย่างชั่งใจ ก่อนจะยิ้มเศร้าๆ
“วันเกิดปีนี้ฉันไม่อยากได้ของขวัญอะไรอีกแล้ว.....ยกเว้น......แทยอน”
สามสาวหน้าตาดีทั้งหมดมารวมกันที่ร้านกาแฟใกล้ๆโรงเรียนของพวกเธอ ผู้ชายโต๊ะรอบๆหันมาจ้องกันตาเป็นมันเพราะความน่ารักที่มีอยู่ในตัวแต่ละคนสองประกายออร่าเหลือเกิน
“แน่ใจแล้วนะว่าจะคุยกันที่นี่จริงๆ”
“เออดิ ช่างหัวพวกที่มันมองไป สนใจแต่เรื่องของแกก็พอ”
ยูริพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไร......แน่สิ ก็แกมันนักกีฬา แต่เราสองคนมันผู้หญิงบอบบางนะเว้ย
“อืมๆ แล้วไงต่ออ่ะ”
แทยอนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องมาอยู่ใกล้คนที่ได้ชื่อว่าเย็นชาอย่างเจสสิก้า ถ้าไม่ติดว่ายูริบอกให้มาปรึกษากับกับหล่อนเพราะว่าเป็นเพื่อนสนิทกับทิฟฟานี่แล้วล่ะก็ เธอคงจะไม่มีวันเฉียดเข้าใกล้คนที่มีออร่าน่ากลัวแบบนี้หรอก
“ก็....สิก้าว่าไง”
เธอแปลกใจเล็กน้อยที่ยูริดูสนิทกับเจสสิก้าเหลือเกิน ทั้งนัดมาที่ร้านนี่แล้วก็คำแทนตัวที่ดูเหมือนไม่ใช่คนที่เพิ่งเจอกัน
“ก็พรุ่งนี้จะถึงงานวันเกิดยัยหมีแล้วใช่ม่ะ เราก็จะใช้โอกาสนี้ให้เป็นโยชน์ซะสิ”
“ยังไงอ่ะ/ยังไงเหรอ”
เจสสิก้ายิ้มที่มุมปากอย่างมีเลสนัย
“เอาหูมานี่สิ”
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู~ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูทิฟฟานี่~”
ทิฟฟานี่ยิ้มกว้างจนตาปิดเมื่อเพื่อนๆเอาเค้กมาเซอร์ไพร์เธอหลังเลิกเรียน
แม้จะไม่มีแทยอน....เธอก็คงไม่เป็นอะไรหรอก
“อธิฐานสิ”
เจสสิก้าที่เป็นตัวต้นคิดงานวันนี้ยื่นเค้กที่ตกแต่งด้วยครีมสีชมพูของโปรดให้อย่างยิ้มๆ
เธอจะขออะไรดีนะ....อะไรที่เธออยากได้ในตอนนี้มากที่สุด....ทิฟฟฟานี่ให้กับตัวเองอย่างขำๆ
‘ไม่ผิดอะไรใช่มั๊ยที่ฉันจะขอให้ของขวัญปีนี้คือเธอ....คิมแทยอน’
งานเลี้ยงย่อมมีเลิกรา หลังจากที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปทุกคนในห้องก็พากันเก็บของกลับบ้าน เหลือไว้เพียงทิฟฟานี่กับเจสสิก้าที่เพิ่งจะเก็บของเสร็จ เธอกำลังจะเดินออกไปแต่ถูกเจสสิก้าดึงมือเอาไว้ก่อน เธอมองเจสสิก้าอย่างต้องการถามว่ามีอะไร?
“ของขวัญที่เธออยากได้น่ะ....ไม่เอาแล้วเหรอยัยหมี?”
“ ของขวัญ? ฉันก็ได้ของขวัญจากเธอแล้วหนิ”
เจสสิก้าส่ายหน้าและยิ้มขำๆ พลางชี้ไปที่กล่องของขวัญขนาดใหญ่สูงประมาณเอวของเธอที่ตั้งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“ของขวัญสุดพิเศษชิ้นสุดท้ายในวันเกิดปีนี้ไงล่ะฟานี่ ลองไปเปิดดูสิ”
ทิฟฟานี่เดินตามไปที่กล่องอย่างงงๆ เมื่อลองเปิดดูก็พบกับ......
กระดาษหนึ่งใบ...ที่เขียนด้วยลายมือว่า....
‘ไง ยัยมิยองขี้บ่น นอกจจะจะขี้บ่นแล้วยังขี้น้อยใจอีกต่างหาก วันเกิดปีนี้เป็นไงล่ะ สนุกมั๊ย? ของขวัญถูกใจบ้างหรือเปล่า? เฮ้อ....บางทีเธออาจจะมีความสุขโดยที่ไม่ต้องมีฉันก็ได้นะ แต่ฉันมันบ้าเองล่ะที่หวังว่าเธอคงต้องการจะให้ฉันอยู่ด้วย ฉันอยากเจอเธอนะ แต่กลัวว่าเธอจะยังโกรธคำพูดที่พูดไปอย่างไม่คิดวันนั้นอยู่ ....ถ้ายังโกรธ...ฉันขอโทษนะ :(
ถึงตอนนี้แล้วเดาได้หรือยังว่าฉันเป็นใครเอ่ย?
ถ้ายังก็จะบอกให้.....
ลองเรียกฉันว่า แทแท สิ :) ’
ทิฟฟานี่มองแผ่นกระดาษนั้นอย่างชั่งใจว่าจะทำตามดีหรือไม่....หันไปมองเจสสิก้าก็ไม่เห็นว่าเพื่อนของเธออยู่ในห้องนี้แล้ว.....ห้องที่มีแต่เธอ....ถ้าหากเรียกแล้วคนที่เธอหลงรักจะออกมาจริงๆหรือ?
“แท....แท”
ทุกอย่างยังคงเงียบสนิท....
นี่ฉันหวังมากเกินไปใช่มั๊ย....เจสสิก้า...เธอเล่นอะไรกัน.....
การเล่นตลกกับความรู้สึกของฉันมันสนุกมากหรือเปล่า?
หมับ....
“ไง มิยอง.....”
เสียงหวานใสดังขึ้นข้างหูพร้อมกับความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วแผ่นหลัง.....
“......”
“ฉันขอโทษนะ.....”
คนในอ้อมแขนสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับเสียงสะอื้นที่พาลจะทำให้เธอร้องไห้ไปด้วย
“
.แทแทบ้า....ยัยเตี้ยนิสัยไม่ดี....ฮึก.....”
แทยอนยิ้มขำ.....ก่อนจะรวบรวมลมหายใจเพื่อที่จะเอ่ยมันออกไป
“ขอโทษ....แล้วก็.....รักนะ...”
91%
----------------------------------------------------------------
แหะๆ มาอัพนิดนึงเพื่อจะลงตอนจบในครั้งต่อไป.....เค้าขอโทษนะ T^T
รู้ตัวว่าหายไปนานมากจนชักจะไม่แน่ใจว่าจะมีคนอ่านอีก - -*
ขอโทษจริงๆค่ะ ค่อนข้างยุ่งมากๆเลย
ภาษาที่ใช้เขียนก็คงแปลกกว่าเก่านะคะ ยังอึนๆ @_@
เม้นด้วยจะดีมากค่ะ T^T ซิกๆ
ปล.37หน้ายาวป้ามาก -*- กว่าจะจบก็40หน้า เหอๆๆ
ปล.2 เนื้อเรื่องแปลกมากเพราะลืมไปแล้วว่าจะแต่งต่อว่าไง O_O
ผลงานอื่นๆ ของ PepperMint ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ PepperMint
ความคิดเห็น