Fic snsd : ขอเป็นแฟน(คลับ)เธอได้ไหม? (Yuri) - Fic snsd : ขอเป็นแฟน(คลับ)เธอได้ไหม? (Yuri) นิยาย Fic snsd : ขอเป็นแฟน(คลับ)เธอได้ไหม? (Yuri) : Dek-D.com - Writer

    Fic snsd : ขอเป็นแฟน(คลับ)เธอได้ไหม? (Yuri)

    เมื่อเด็กแว่นหน้าตาพอไปวัดไปวาอย่างแทยอนถูกทิฟฟานี่ เพื่อนสาวร่วมห้องจับแต่งองค์จนเปลี่ยนจากหน้าเท้าเป็นหลังมือ ทำให้ถูกแฟนคลับไล่ตามติด ความHOTเริ่ม ณ บัดนี้แล้ว!!-91%- ขอโทษ....แล้วก็...รักนะ..."

    ผู้เข้าชมรวม

    4,213

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    4.21K

    ความคิดเห็น


    72

    คนติดตาม


    12
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ก.พ. 55 / 21:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    ขอเป็นแฟน(คลับ)เธอได้ไหม?


     

    BEFORE

     


    AFTER

    คิม แทยอน



     

    ฮวัง ทิฟฟานี่

    ...........








    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      กรี๊ดดดดดดดด!!!”

      พี่แทมองมาทางนี้ด้วยแหละแก

      ทางฉันต่างหาก

      ฉัน!”

      ฉัน!”

       

      คิมแทยอน เดินจ้ำอ้าวก้าวอย่างไวเพื่อจะได้พ้นรัศมีพวกแฟนคลับของเธอ ร่างเล็กเดินก้มหน้าก้มตาไปเรื่อยๆจนถึงห้องเรียนพอวางกระเป๋าลงก็ต้องหลบไปอยู่บริเวณหลังห้อง มองซ้ายมองขวาราวกับว่ากลัวใครจะมาทำร้ายยังไงยังงั้น

      อันที่จริงไม่ถึงขั้นนั้น.....แค่กลัวว่าจะโดนเหล่า FC ผู้น่ารัก(?)ทั้งหลายรุททึ้งก็แค่นั้นเอ๊ง!

      ไม่ได้จะอวด แต่ว่ามันเยอะมากจริงๆ

       

      และถ้าถามว่าเรื่องปกติไหม?

      ไม่ใช่เลยสักนิด!!

       

      ที่จริงแล้วเธอก็แค่คนธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนไปวันๆ แต่เรื่องมันก็มีอยู่ว่า.....

       

       

       

       

       

       

      แทยอนฉันว่าเธอเลิกใส่แว่นได้แล้ว มาใส่คอนแทคเลนส์ดีกว่านะ

       

      ฮวังทิฟฟานี่ ชูกล่องคอนแทคเลนส์สีน้ำตาลขึ้นมาแกว่งไปมา พลางหยิมกล่องโน้นทีกล่องนี้ทีมามั่วไปหมด โดยไม่สนใจเลยว่าบุคคลที่เอ่ยถึงนั้นอยากใส่มันบ้างไหม

       

      ไม่เอาอ่ะ มันน่ากลัวจะตาย

       

      แทยอนส่ายยดิ๊ก พร้อมขยับแว่นหนากรอบดำที่แลดูเหมือนป้าข้างบ้านให้เข้าที่

      อยู่ๆคึกอะไรขึ้นมาอีกนะยัยมิยอง!

      ทิฟฟานี่หันมามองตาขวางจนแทยอนขนลุกซู่

       

      ต้องใส่นี่คือคำสั่ง!”

      ก....ก็ได้

       

      เธอเอ่ยเสียงอ่อยและรับถุงที่บรรจุกล่องคอนแทคเลนส์มาอย่างช่วยไม่ได้.....ก็ใครใช้ให้โหดกันเล่า!

      แฟนก็ไม่ใช่!

      แม่ก็ไม่เชิง!

      ก็แค่เพื่อนร่วมห้อง!

      แล้วเธอมีสิทธิอะไรมาสั่งฉันห๊ะ ยัยมิยอง!

      แต่ทำไมฉันต้องทำตามเธอทุกทีเลย ให้ตายสิ ฮือๆ

       

      (ได้แต่เถียงในใจ)

       

      อ่อ....ไปตัดผมเหอะ รวบผมซะเหมือนป้าแก่ๆเลยนะแทยอน

      แต่.....

       

      แทยอนตั้งท่าจะเถียง

       

      ไม่มีแต่!!”

       

      โหดชิบเป๋ง.....

       

       

       

       

       

      โอ้โหเห๊ะ......

       

      ทิฟฟานี่เอ่ยหน้าเหม่อๆเมื่อได้เห็นแทยอนเวอร์ชั่นน่ารักเต็มๆตา

       

      แทยอน....น่ารักอ่ะ

      อย่ามาชมกันแบบนี้ดิ ขนลุกแปลกๆ

       

      แทยอนพูดพลางลูบปอยผมที่สั้นลงของตัวเองไปมา ใบหน้าจดจ้องอยู่ที่กระจกบานใหญ่ภายในร้านเสริมสวย แว่นตาอันเก่าถูกโล๊ะทิ้งไปและถูกแทนที่ด้วยนัยน์สีน้ำตาลอ่อน

      จะว่าไป......เราก็หน้าตาดีเหมือนกัน หุหุ

       

      ว่าแต่เธอจะให้ฉันแต่งแบบนี้ทำไมเนี่ย

      ก็ฉันแค่อยากให้เธอดูแลตัวเองบ้างอ่ะ ไม่ใช่ปล่อยตัวเองให้ซกมกไปวันๆ

      .......

      เถียงไม่ออกสิคะ

       

      จู่ๆทิฟฟานี่ก็ขมวดคิ้วและเดินตรงมาที่เธอ แววตาใสแวววับนั่นพาให้ฉันใจเต้นแรง.....

       

       

      แต่แทยอนน่ารักแบบนี้......ฉันชักจะหวงเธอซะแล้วสิ

       



       

       

      ถ้าถามว่า.....ทำไมถึงยอม?

      แน่นอนไม่ใช่เหตุผลประมาณว่า เขาน่ารัก เราเลยยอม....

      แต่เพราะยัยหมีบ้านั่นมันโหดเกินคนต่างหากล่ะ!! ข่าวเรื่องต่อยตีก็มีให้เห็นเยอะแยะ แถมเวลาโมโหก็น่ากลัวสุดๆ อารมณ์ขึ้นๆลงๆจนขนาดเพื่อนๆที่สนิทหน่อยยังเดาใจไม่ถูก เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยววีน(ฟังๆไปเหมือนคนบ้า)

      ถือเป็นโชคร้ายของเธอเองที่บังเอิญไปเจอทิฟฟานี่ในห้างสรรพสินค้า อุตส่าห์ทำตัวเงียบๆ ไม่ทักไม่คุย แต่ทิฟฟานี่ก็ยังจำหน้าแทยอนได้อยู่ดี ทำให้งานนี้มีแต่ซวยกับซวย เพราะยัยหมีบ้าลากเธอไปโน่นไปนี่ จัดการหาชุด แต่งหน้าทำผมตลอดจนพาเข้าสปาแพงๆ

       

      และถ้าถามว่าทิฟฟานี่ทำไปทำไมน่ะเหรอ?

       

      ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน!!

      ก็บอกไปแล้วอารมณ์ขึ้นๆลงๆเดาใจยาก คุณเธอคิดอะไรไม่มีใครรู้หรอก

       

      แถมพอหลังจากนั้นก็หายหน้าหายตาไม่เข้าห้องเรียน ทิ้งให้เขาต้องวิ่งวุ่นตอบคำถามคนโน้นทีคนนี้ทีว่ามีแฟนหรือยัง ทำไมถึงเปลี่ยนลุค หนักๆเข้าก็ยังมีคนถามเลยว่าไปทำศัลยกรรมมารึเปล่า!!

       

      ฮึ่ม...ยัยมิยองนะยัยมิยอง

      แทยอนเปรยกับตัวเองเบาๆ เพียงแต่....

       

      เรียกใครว่ามิยองห๊ะ คิมแทยอน!!”

       

      แบบนี้แถวบ้านเขาเรียกว่า ตายยาก!

       

      เฮ้ย!”

       

      แทยอนร้องเสียงหลงเมื่อหันไปเจอตาใสๆกับใบหน้าเนียนในระยะประชิด เล่นเอาหัวใจอดีตเด็กเนิร์ดสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

       

      ก็ถ้ามันจะน่ารักขนาดนี้เนี้ยนะ!!

       

      เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ

      ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงเย็น

      แค่นี้ตัวก็หดเหลือสองมิลแล้วยัยหมีโหดเอ๊ย (สองเซนต์มันเยอะไป)

       

      ....เอ่อ....ม...มิยองน่ะ แหะๆ

       

      เธอเงียบไปสักพักนึง แต่ยังคงจ้องมองฉันอย่างไม่วางตา

      ก่อนจะยิ้มกว้างแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยให้แทยอนได้หัวใจได้ออกกำลังกายขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

       

      ดี.....ฉันชอบ ต่อไปนี้เธอต้องเรียกฉันว่ามิยองเท่านั้นนะ คิมแทยอน

       

      อ้าว ปกติไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อนี้ไม่ใช่เหรอ

       

      แทยอนเอ่ยถามอย่างงุนงง ตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะแม่คุณ!

       

      ใช่....แต่เธอคือข้อยกเว้น

      ทำไมอ่ะ

      แล้วจู่ๆทิฟฟานี่ก็ขมวดคิ้วแล้วตวาดเสียงดัง เหมือนสับสวิตช์ทันทีที่มีคนพูดไม่ถูกใจ

       

      อย่าถามมากได้มั๊ยข้อยกเว้นก็คือข้อยกเว้นไปล่ะ

       

      ฮะ เฮ้ย จะมาก็มาจะไปก็ไปเลยเรอะ งงนะเว้ย!

       

      พี่แทยอนอยู่นั่นไงไปเร็วพวกเรา!”

       

      เฮ้ย!!!

      ฝูงแรด(?)ตามมาเจออีกแว้ววววววว

       

      อย....อย่าเข้ามาน๊า~!”

       

      พูเสร็จแทยอนก็รีบใส่เกียร์หมาออกวิ่งทันทีที่เห็นเหล่าแฟนคลับแห่กันเข้ามาทางหน้าห้อง

       

      มาหน้าห้องก็ออกหลังห้องสิวะ!!

      พอเปิดประตูเท่านั้นแหละ คนนับสิบก็รีบเข้ามาจับจองแย่งกันถ่ายรูปกันให้ขวัก

       

      เวร!!

       

      ทั้งโดนลูบโน่นลูบนี่ ของขวัญกล่องให้ถูกหยิบยื่นเข้ามาจนรับแทบไม่ทัน แสงแฟรทวูบวาบชวนให้มึนหัว

      ทั้งหมดนี่มันจะไม่เกิดขึ้น.....ถ้าไม่ใช่เพราะ…..

       

       

       

      ยัยหมีบ้า!!!!”

       

       

       

       

      นี่ ยัยฟานี่ วันนี้ลืมกินยาเขย่าขวดรึไงห๊ะ นั่งยิ้มอยู่ได้

       

      จองเจสสิก้า เอ่ยอย่างประหลาดใจเมื่อร้อยวันพันปี ทิฟฟานี่เพื่อนสาวผู้ยิ้มยากของเธอไม่เคยจะมานั่งยิ้มเหมือนคนบ้าแบบนี้เลยสักครั้ง

      คนเนี้ย....เขาฮอต สาวติดตรึม

      แต่ก็ไม่เคยมานั่งยิ้มคนเดียวเหมือนคนกำลังอินเลิฟแบบนี้หรอกนะ!!

       

      พอดีวันนี้เจอคนน่ารักๆมาอ่ะดิ

      แกล้อฉันเล่นป่ะใครจะทำแกเพ้อได้ขนาดนี้วะ

       

      ทิฟฟานี่หันมายิ้มตาปิด

       

       

      ความลับ.....บอกได้แค่ว่าน่ารักมากๆอ่ะ เห็นแล้วใจเต้นแรงยังไงไม่รู้







                      “โอเค โหวตสี่สิบห้าจากห้าสิบคน เป็นอันว่า คิม แทยอนจะต้องขึ้นไปร้องเพลงในงานโรงเรียนปีนี้นะ




      เย้!!”

       

      เกือบทั้งห้องพากันโห่ร้องแสดงความยินดี ยกเว้นเจ้าตัวที่นั่งซึมกระทือเหมือนโลกจะแตกเอาในวันพรุ่งเสียให้ได้

      ......เสนอชื่อ......ลงคะแนนตามความคิดเห็นส่วนใหญ่ของห้อง

       

      แล้วทำไมไม่ถามฉันบ้างว่าอยากทำมั๊ย?

       

      เอาน่าแท ฉันรู้ว่าแกไม่อยากขึ้นไปร้องเพลงหรอก แต่ในห้องไม่มีใครเสียงดีเท่าแกอีกแล้วนะเว้ย

       

      ควอน ยูริ เพื่อนสาวเกือบแท้เอ่ยปลอบใจ คงจะมีแต่ยูรินี่แหละที่เข้าใจเขาทุกเรื่อง ไม่กดดันไม่คาดหวังเหมือนคนอื่นๆที่ไม่รู้จักเขาจริงๆ

       

      เฮ้อ.....แต่ว่ายังไงก็ไม่อยากขึ้นอยู่ดีว่ะ

      แต่ฉันว่าคงมีคนรอดูแกเยอะเลยมั้ง

      ......มีแฟนคลับเยอะไม่เห็นจะน่าดีใจตรงไหน

      ทำไมอ่ะ

       

      ก็ดูดิ....พอตอนที่ฉันไม่ทำผมไม่แต่งตัว พวกเขาก็พากันเมิน ต่อให้ร้องเพลงดีแค่ไหนก็ไม่ดัง....แล้วพอฉันเปลี่ยนตัวเอง....ทุกคนก็พากันหลงแค่หน้าตาฉัน.....ไม่เห็นจะมีใครชอบฉันนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกเลยสักคน….”

       

      พูดง่ายๆคือน้อยใจนั่นแหละ

       

      เอาน่ะ.....เรื่องแบบนี้มันปกติ ทำใจเหอะ

      อือ....

       

      แทยอยเบือนหน้าหนีไปนอกหน้าต่าง

       

      คิดๆแล้วก็อยากเป็นนกยังไงชอบกล อิสระ ล่องลอยไปตามใจตัวเอง....ไม่ต้องสนว่าใครจะมองแบบไหน แค่มีชีวิตสงบๆ ไม่วุ่นวาย ง่ายๆ  ไม่ต้องถูกเพ่งเล็ง

       

      น่าอิจฉาชะมัด.....

       

      พลันใบหน้าหวานๆของใครบางคนก็แวบเข้ามาในหัว....ใครบางคนที่มีตายิ้มอันน่าหลงใหล

       

      ไม่ยึดติด....ทำอะไรตามใจตัวเอง คนแบบนั้นก็น่าอิจฉาเช่นกัน

       

      แล้วก็เผลอยิ้มออกมาบางๆอย่างไม่รู้ตัว.....

       

       

       

       

       

      แทยอน อย่าผิดคีย์นะเว้ย

      รู้แล้วน่า

       

      แทยอนเอ่ยตอบรับแบบปัดๆ แม้ว่าในใจนั้นเต้นตูมตามมือเย็นชืดด้วยความตื่นเต้นไปถึงไหนต่อแล้วก็ตาม

      จะร้องออกไหมเนี่ย

      ร่างเล็กถูมือตัวเองเผื่อว่าจะลดความตื่นเต้นได้บ้าง หากมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด ยิ่งมองไปทางเหล่าคนที่ยืนติดขอบเวทีแล้วใจก็ยิ่งฝ่อ

       

      ไปห้องน้ำแปปนะยูริ

      เร็วๆล่ะ เดี๋ยวต้องขึ้นแล้ว

       

      ตายๆๆ จะไปรอดไหมงานนี้

      แทยอนสำรวจตัวเองในกระจกเพิ่อความมั่นใจ แต่ยังไงก็ยังหยุดใจที่มันเต้นแรงไม่ได้สักที

       

      แกจะกลัวอะไรวะ แทยอน

      เขาพูดกับตัวเองเบาๆ

       

      นั่นสิ แล้วเธอจะกลัวอะไรล่ะ

      เฮ้ย!!”

       

      จู่ๆทิฟฟานี่ก็เดินเข้ามาปุปปับจนแทยอนหัวใจแทบหยุดเต้น

      โผล่แต่ละทีเหมือนผียังไงชอบกล!!

       

      ชอบไม่ใช่เหรอ ร้องเพลงน่ะนะ

      มันก็ใช่ แต่ว่า...

      แต่ไม่ชอบให้ใครมากดดัน?”

       

      อ่านใจคนได้เหรอวะเนี่ย

       

      ก็ประมาณนั้น

      ถ้างั้น.....

       

      จุ๊บ....

      ฮะ เฮ้ย

       

      หะ....หอมแก้ม!??

       

      สำหรับกำลังใจ....ส่วนนี่

       

      จุ๊บ......

       

      สำหรับความน่ารักของ ‘แท’ แล้วกันนะ.....

       

      พูดจบเธอก็ยิ้มตาหยีแล้วก็เดินจากไปอย่างเช่นทุกที.....

       

      แทยอนลูบแก้มทั้งสองข้างอย่างเหม่อๆ หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่คิดถึงเวทีเสียอีก....

       

      อารมณ์ไหนเนี่ยแม่คุณ!!

       




      เฮ้ยแท....ฉันว่าแกหน้าแดงๆนะ ไม่สบายรึเปล่า

      ปะ....เปล่านี่

       

      แทยอนพูดโดยไม่ยอมสบตายูริและเดินผ่านไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      หน้าเราแดงเหรอไม่จริงอ่ะ

      เขาคิดแล้วยกมือลูบแก้มทั้งสองข้างไปมาหวังว่ามันจะหายแดงลงบ้าง สูดหายใจเข้าลึกๆสองสามทีเพื่อสงบสติอารมณ์

       

      แท ขึ้นเวทีได้แล้ว

      รู้น่ะ

       

      ร่างเล็กลูบหน้าอกตรงตำแหน่งหัวใจเบาๆ แล้วก้าวขึ้นเวทีไปในที่สุด

       

       

      กรี๊ดดดดดดดดด!!

       

       

      พอก้าวขึ้นนเวทีเท่านั้นแหละ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นเสียจนเขาต้องอุดหูเอาไว้

      กรี๊ดขนาดนี้ขึ้นมาร้องเพลงเองเลยมั๊ย!!

       

       

      หากเมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น เสียงกรี๊ดนั้นก็เงียบลงเหลือแต่เพียงความเงียบและเสียงหวานกังวานของสาวร่างเล็ก เสียงเปียโนค่อยๆบรรเลงไปอย่างเชื่องช้าพร้อมกับท่วงทำนองที่ไพเราะเสียจนทุกคนในบริเวณพากันมองมาที่เขา

       

      แทยอนหลับตาลงแล้วค่อยๆขับร้องออกมา แม้ว่าเขาจะตื่นเต้นเพียงใด แต่น้ำเสียงนั้นก็ยังสามารถสะกดทุกคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

       

      รวมถึงใครบางคนที่จ้องมองเขาในมุมๆหนึ่งเช่นกัน.....

       

       

       

      แปะๆๆๆๆ

       

      กรี๊ด!! พี่แทยอน!!”

       

      เมื่อเสียงเพลงจบลง เขาก็รีบลงจากเวทีทันทีเพราะไม่อาจจะทนเสียงที่ดังกระหึ่มไปทั่วฮอลล์ได้

       

      แท.....สุดยอดเลยว่ะ ฉันนึกว่านักร้องตัวเป็นๆมาเองซะอีก

      เฮ้อ....เกือบเอาตัวไม่รอด

       

      ร่างเล็กยกขวดน้ำขึ้นมาดื่มแก้คอแห้ง กะว่าจะรีบชิ่งกลับก่อนที่จะมีคนมาเห็นตัว ไม่งั้นงานนี้คงไม่ต้องกลับบ้านแล้วล่ะ เนื่องจากพอร้องเพลงเสร็จแล้วเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก สู้กลับไปนอนตีพุงที่บ้านเลยดีกว่าเยอะ

      แต่มันไม่ง่ายกว่าที่คิดน่ะสิ!!

       

      พี่แทยอนนี่นาพวกเราพี่แทยอนอยู่นี่!!”

      เฮ้ยยยยยยยยยยย

       

      มีอยู่ทุกมุมของโรงเรียนเลยวุ้ย!!

       

      พี่รับดอกไม้ฉันด้วยนะคะ

      ไม่ พี่รับของฉันดีกว่าค่ะ

      นี่เธอฉันเห็นพี่เค้าก่อนนะ เธอน่ะมาทีหลัง!!”

      อะไรยะหล่อน อย่างเธอน่ะต้องไปส่องกระจกก่อนจะมายืนต่อหน้าพี่แทยอนเหอะ

      อ๊ายยยยยยยยยยยย อินี่ วอนโดนตบซะแล้ว!”

      เรียกฉันว่าอีเหรอ มาดิๆ คิดว่ากลัวเหรอ

      ตายซะเถอะแก๊!!”

       

      เพี๊ยะ!

      เพี๊ยะ!

      ผัวะๆๆๆๆ

       

      .....งานนี้โทษคิมแทไม่ได้น้า เค้าไม่เกี่ยว ~

      หากการตบกันเพื่อแย่งชิงหมาน้อยนั้นก็ต้องยุติลงเพราะการปรากฏตัวของใครบางคน





      พวกเธอสองคนไม่ต้องเถียงกัน.....แทยอนน่ะ....ของฉันคนเดียว

       

      !!??...

       

       

      พะ.....พี่ทิฟฟานี่

       

      หญิงสาวนางหนึ่งที่ร่วมสมรภูมิรบเอ่ยเสียงสั่นๆ  มือที่กำลังดึงทึ้งผมอีกฝ่ายรีบปล่อยทันที

       

      พี่หมายความไงคะ

      หึ....แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกเหรอจะบอกให้เอาบุญนะ.......แทยอนคือของฉัน

       

      แทยอนมองหน้าทิฟฟานี่เหวอๆ

      ฉันไปเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ งงว่ะเฮ้ย

      ทิฟฟานี่หันมายิ้มหวานแต่กลับน่ากลัวในความรู้สึกของแทยอนเสียเหลือเกิน เธอเดินเข้ามาควงแขนเขาเหมือนจะต้องการเย้ยสองสาวที่มองด้วยความอิจฉาริษยา

       

      เข้าใจแล้วก็รีบไปสักทีสิ ยืนบื้ออยู่ทำไม

      ค...ค่ะ

       

      ทั้งสองคนรีบกุลีกุจอออกไปโดยเร็วเมื่อได้เห็นสายตาเย็นๆของร่างบาง เมื่อสองสาวออกไปแล้วแทยอนก็รีบแกะมือทิฟฟานี่ออกทันที

      ไม่ใช่รังเกียจหรอกนะ.....แต่ได้ข่าวว่าเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนี่

       

      เธอทำแบบนี้ทำไม

      ......ไม่รู้

      เอ๊ะ ยังไงเนี่ย

      ทำแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นอะไรกันไปหมดหรอก

       

      ก็ปล่อยให้เขาเข้าใจไปสิ

      ทิฟฟานี่.....เธอชักจะพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วนะ

      ใช่ ฉันมันเป็นคนไม่มีเหตุผล….แล้วอีกอย่าง....ทำไมแทไม่เรียกฉันว่ามิยอง

      ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอพูดด้วย

       

      แทยอนเริ่มขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ที่เริ่มขุ่นเคืองนิดๆ

      ใช่ ทำไมฉันต้องทำตามเธอด้วย ไม่จำเป็นเลยสักนิด

       

      ใช่สิ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับแทนี่

       

      ทิฟฟานี่เบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความเจ็บในใจนิดๆ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกอะไรแบบนี้ ยิ่งคิดถึงตอนที่ทุกคนต่างมองแทยอนด้วยความหลงใหลและชื่นชม เธอยิ่งไม่อยากยืนดูเลยจริงๆ แถมยังทำตัวงี่เง่าไร้เหตุผลแบบนี้.....ไม่ชอบเลยให้ตายสิ

       

      แทยอนมองทิฟฟานี่ที่ฉายแววเหมือนจะน้อยใจอย่างมึนงง  ไม่เข้าใจในเพื่อนสาวคนนี้เลย อยู่ใกล้กันมาตั้งนานแต่ไม่เคยจะเข้าไปทักไปคุยจริงๆเลยสักครั้ง นิสัยก็ออกจะประหลาดๆ ทำตามใจตัวเอง ไม่ค่อยมีเหตุผล อีกทั้งยังมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆเหมือนคนวัยทองยังไงยังงั้น

       

      ก็ใช่น่ะสิ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย เธอถึงทำแบบนี้ไม่ได้น่ะ

       

      ........

       

      ร่างบางเม้มปากเป็นเส้นตรง แค่คำพูดเล็กน้อยทำไมถึงทำให้ฉันเจ็บแปลบขนาดนี้นะ เธอเดินจากไปด้วยความอัดอั้นและสับสน

       

      แทยอนมองประตูที่ร่างบางเดินออกไป ในใจเริ่มมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามารบกวนจิตใจของเขาให้รู้สึกผิดไปจากแต่ก่อน......

       

      เราพูดแรงไปหรือเปล่านะ?







                       “ยังไงของแกกันแน่เนี่ย เมื่อวานเห็นนั่งยิ้มเป็นบ้าเป็นหลัง แล้วไหงวันนี้ถึงได้มานั่งซึมได้ห๊ะ

       

      ทิฟฟานี่ไม่ตอบ ในใจยังคงคิดวนเวียนถึงคำพูดนั้นซ้ำๆ

      ทำไมฉันถึงต้องคิดมากแบบนี้ด้วยนะ...

      เจสสิก้ามองดูเพื่อนสาวนั่งที่เหม่อลอยอย่างเหนื่อยใจ

       

      อย่าบอกนะว่าโดนหักอกมา

       

      เงียบ...อันที่จริงก็ไม่ได้ถึงกับโดนหักอกมาหรอก เพียงแต่ว่าแทยอนยังไม่รู้ว่าทิฟฟานี่คิดยังไง แถมทิฟฟานี่เองก็ยังไมรู้ความรู้สึกของตัวเองอีกต่างหาก  งานนี้เธอเลยได้แต่นั่งมึนไปไม่เป็น อยากบอกเพื่อนสาวใจแทบขาด แต่อีกใจหนึ่งก็อยากเก็บเอาไว้ก่อนแล้วค่อยบอกออกไป

       

      เปล่า.....

       

      ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงอ่อยให้เจสสิก้ามองแล้วถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก

      จะอะไรกันนักกันหนานะยัยเพื่อนบ้านี่หนิ!!

       

      ฉันไม่เชื่อแกหรอก ถ้าไม่ได้โดนหักอกแล้วเป็นอะไร

      ไม่รู้เหมือนกัน.....

      "หรือว่า.... คนที่แกบอกว่าน่ารักเหรอ"

      "....."

       

      ชัวร์เลย!!

       

      "เคยบอกเค้ารึยังว่าคิดไง"

      "คิดยังไงคิดอะไร"

       

      ทิฟฟานี่หันมามองอย่างไม่เข้าใจ เจสสิก้าต้องถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย

      สมองนี่มีไว้คั่นหูใช่มั๊ยถึงได้คิดอะไรเองไม่เป็นน่ะหา!!

       

      "โอ๊ย ฉันล่ะเซ็งแกจริงๆเลย"

       

      "....."

       

       

      "แกชอบเค้ารึเปล่าล่ะ.....ถ้าชอบ....ก็รีบไปบอกเค้าเซ่!! เก็บไว้แล้วเค้าจะรู้มั๊ยล่ะ อิโง่!"







       

       

      "หืม?.....ช็อกโกแลตใครเนี่ย?"

       

      แทยอนหยิบกล่องสี่เหลี่ยมสีทองขึ้นมาพลิกไปรอบๆด้วยความสงสัย พลันสายตาก็ไปสะดุดกับตัวอักษรเล็กๆ

       

      'หวังว่าเธอจะชอบนะ แทยอน : )'

       

      ให้เราเหรอ?

      แทยอนหันมองไปรอบๆเผื่อว่าเจ้าของช็อกโกแลตชิ้นนี้จะยังมองดูเธออยู่ ร่างเล็กอมยิ้มบางๆกับการทำตัวลึกลับของใครคนนี้

      ก็คงเป็นแฟนคลับล่ะมั้ง.....

      เธอเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อนจะเดินกลับบ้านตามปกติ

       

       

      เมื่อเห็นแทยอนออกไปแล้วทั้งสองสาวก็เดินออกมา ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วน้อยๆ

       

      "ทำไมไม่ให้ฉันบอกไปตรงๆเลยอ่ะ"

      เจสสิก้าจิ๊ปากอย่างขัดใจ

      "เธอจะเดินไปบอกเขาตรงๆเลยรึไงห๊ะ เดี๋ยวก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บกลับมาหรอก สมองมีหัดคิดนิ๊ดนึง"

      "อ่าห๊ะ วันนี้เธอแรงอ่ะเจส"

      "อ่ะแน่น๊อน"

       

      เจสสิก้ารับคำอย่างไม่ใส่ใจนัก สมองเริ่มคิดหาทางให้เพื่อนสาวสารภาพรักแบบสำเร็จชัวร์ๆร้อยเปอร์เซ็นต์ให้ได้  จับขังห้องมืดสองต่อสองเลยดีไหมนะหรือว่าใส่มอมยาแทยอนแล้วจัดฉากให้เหมือนมีอะไรกันแล้วดีไม่สิๆ  น่าจะให้มีอะไรกันไปเลยดีกว่าจะได้แก้ตัวไม่ได้ แล้วหลังจากนั้นก็ถ่ายรูปเอาไปเผยแพร่จะได้ดิ้นไม่หลุด อิอิ แผนเริ่ดค่ะ!!

       

      ทิฟฟานี่มองเจสสิก้าที่นั่งขำคนเดียวอย่างหวาดๆ

      พึ่งได้จริงป่ะเนี่ย?

       

      "เอ่อ....ฉันว่าฉันคิดเองดีกว่านะ"

      "แผนเธอมันจะไปได้เรื่องอะไรเล่า ฉันคิดออกแล้วน่ะ แค่ทำตามฉันก็พอ"

       

      เฮ้อ....จะได้เรื่องจริงๆเร้อ?

       

       

       

       

      แทยอนนั่งมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอย่างคนใจลอย คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย แต่สุดท้ายก็มาจบลงที่ใบหน้าเศร้าของทิฟฟานี่ทุกที......ทำไมกันอย่าบอกนะว่าเราชอบยัยมิยองคนเอาแต่ใจนั่น ไม่จริงอ่ะ เราอาจจะแค่หวั่นไหว

       

      ......ใช่ เราแค่หวั่นไหวเท่านั้นเอง

       

      "แท....วันนี้ว่างมั๊ย

      "ม...มิยอง"

       

      คนโดนเรียกโดยไม่ทันตั้งตัวตั้งสติสะดุ้งโหยงเมื่อคนในความคิดกลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ ทำให้หลุดเรียกชื่อที่ชอบใช้เวลาอยู่คนเดียวไปจนได้ อาการนั้นทำให้คนฟังยิ้มแฉ่ง

       

       

      "คือว่า.....ฉันยังไม่มีคู่ทำงานเลยอ่ะ แทมีคู่หรือยัง"

      งานงานไรหว่า มัวแต่นั่งเหม่อไม่ได้สนใจเรียน

      "ก็ยังนะ"

      "งั้นเราคู่กันนะ"

      ".....อืม....ก็ได้"

      "งั้นเย็นนี้ไปที่บ้านฉันนะ ไปช่วยทำงานหน่อย"

      ".....อืม.....ก็ได้"

      "เหมือนไม่เต็มใจ"

       

      ทิฟฟานี่แสร้งทำเสียงเศร้าเล็กน้อย แทยอนเห็นดังนั้นก็รีบโวยวายกลัวว่าร่างบางจะน้อยใจ

       

      "ไม่ใช่นะฉันเต็มใจไปอยู่แล้ว"

      "จริงนะ"

      "อื้อ"

      "โอเค งั้นวันนี้เดินกลับบ้านพร้อมกัน ไปแระ"

       

      แทยอนมองตามทิฟฟานี่ที่กลับไปนั่งโต๊ะของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ และแล้วก็เกิดคำถามที่เจ้าตัวหาคำตอบไม่ได้ขึ้นจนได้.....ทำไมฉันต้องใส่ใจความรู้สึกเธอด้วยนะ...มิยอง

       

       

       

      โดยไม่รู้เลยว่าคนที่เคยทำหน้าเศร้ากลับแอบยิ้มขำกับตัวเองเงียบๆ

       

       

      สำเร็จไปหนึ่งขั้น!!

       

       

       

       

      แกก็แค่ใส่ยานี่ลงไปในน้ำแล้วให้เค้าดื่ม จากนั้นก็จัดฉากว่าโดนปล้ำ แค่เนี้ย ง่ายออก

      เอาจริงอ่ะ

      หรือแกไม่ชอบแทยอนแล้ว

      ก็ชอบ

      งั้นแกก็ทำซะ

      แล้วนี่ยาอะไร

       

      ยานอนหลับไง

       

      เฮ้อ.....

       

      ทิฟฟานี่นั่งถอนหายใจกับตัวเอง แผนของเจสสิก้ามันก็น่าจะเวิร์คอยู่หรอก แต่ทำแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอถ้าแทยอนรู้ความจริงขึ้นมาเรื่องไม่ยิ่งใหญ่โตไปมากกว่านี้หรือไงนะ.....ร่างบางมองแก้วน้ำที่ใส่ยาอะไรซักอย่างที่เพื่อนสาวให้มาอย่างไม่แน่ใจ.......รักก็รัก.....แต่ก็ไม่อยากทำผิด

      เอาวะไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว!

      ทิฟฟานี่ยกแก้วน้ำไปให้แทยอนซึ่งตอนนี้นั่งทำงานเงียบๆอยู่ในบ้านของสาวตายิ้ม ตัดความรับผิดชอบชั่วดีออกไปเสียให้หมด.....เพื่อให้ได้เขามาครอบครอง......อะไรก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ

      ทั้งสองต่างนั่งทำงานเงียบๆ เพียงแต่ทิฟฟานี่กลับกระสับส่ายอยากห้ามไม่ให้ร่างเล็กดื่มใจแทบขาด อยากจะห้ามแต่ก็ไม่กล้าพอ

       

      จนแล้วจนรอดคนตัวเล็กก็ดื่มมันแก้กระหายจนได้……

      แต่แทนที่แทยอนจะหลับตามที่เธอหวังไว้ กลับมีอาการแปลกๆให้เธอเริ่มกังวลกับอาการของเขา เหงื่อผุดขึ้นเยอะขึ้นและเยอะขึ้น ร่างเล็กหายใจหอบถี่จนเธออดถามออกไปด้วยความเป็นห่วงไม่ได้

       

      แท เป็นอะไรรึเปล่า

      ถามไปก็กระดากปากแปลกๆ

      แทยอนตอบเสียงสั่น

      มะ.....ไม่....ไม่เป็นไร.....

      ตุบ....

       

      แท!!”

      จู่ๆแทยอนก็ร่วงลงไปกองกับพื้นส่วนทิฟฟานี่ก็รีบเข้าไปดูอาการด้วยความตกใจ

      ตกลงนี่มันยานอนหลับแน่เหรอเนี่ย!!

       

      ร่างเล็กคว้าข้อมืออีกคนเอาไว้อย่างทรมาน ภายในร่างกายเกิดความร้อนที่ไม่อาจหาสาเหตุได้ตีขึ้นมาจนแทบจะทนไม่ไหว.......รู้เพียงอย่างเดียวเธอต้องทำอะไรสักอย่างให้มันหายไปเสียที

      และแล้วสิ่งที่แม้แต่ทิฟฟานี่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อแทยอนผลักเธอลงโซฟาอย่างรวดเร็ว แววตาเขาดูเลื่อนลอยคล้ายคนไม่มีสติ

       

      แทจะทำ.....อุ๊บ!!!”

       

      ความความหอมหวานถูกส่งเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ริมฝีปากร้อนบดเบียดกันจนทั้งคู่ไม่อาจยั้งสติได้อีก แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้  แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถจะบังคับตัวเองให้ดันคนด้านบนออกไปได้ ……

       

       

      สุดท้ายความปรารถนาก็เข้าครอบงำทั้งสองให้บรรเลงบทเพลงแห่งความรักไปพร้อมๆกันตลอดคืน.....

       

       

       

      อือ....

       

      แทยอนตื่นขึ้นมาแล้วนวดขมับเนื่องจากอาการปวดหัวแปลกๆ โซฟาแข็งๆทำให้เธอต้องบิดขี้เกียจ แต่เมื่อมองไปรอบๆแล้วก็ต้องตกใจ

      ที่นี่ไหนวะเนี่ย!

      พอมองสำรวจตัวเองที่ไร้อาภรณ์ตลอดทั้งตัวก็รับดึงผ้าห่มผืนเล็กมาคลุมไว้ สติที่ยังไม่ดีนักไม่อาจเรียบเรียงเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้ ........เมื่อคืน อย่าบอกนะว่า

      ตื่นแล้วเหรอ

      เสียงหวานๆพร้อมกับร้อยยิ้มสะกดใจปรากฏขึ้น แทยอนคิดอะไรไม่ออกสมองเกิดตื้อขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

      ทะ....ทิฟฟานี่

      ร่างบางทำเป็นเมินท่าทางเช่นของแทยอนแล้วปั้นหน้ายิ้มต่อไป วางข้าวต้มที่ตัวเองตั้งใจทำเอาไว้ตรงหน้าเธอ.......

       

      อย่าบอกนะว่าเมื่อคืน....

      อย่างที่แทคิดนั่นแหละ...เราสองคน....

       

      ไม่จริง เธอโกหก!!”

      เพล้ง !!!

       

      เสียงชามตกกระแทกพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆเหมือนหัวใจของคนฟัง....เธอพูดไปโดยไม่คิด.....แต่คนฟังกลับเจ็บ....

       

      ถ้าทำตามแผนของเจส.......ฉันก็ควรจะรั้งเธอไว้

      แต่ถ้าทำตามจิตสำนึกของตัวเอง.....ฉันคงต้องปล่อยเธอไป

       

      .....ฉันรู้ว่าแทไม่อยากมารับผิดชอบคนอย่างฉันหรอก.....ไม่มีใครอยากรับผิดชอบคนที่ตัวเองไม่รัก

       

      บ้าเอ๊ย......ทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วยนะ ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่รึไงว่ามันต้องเป็นแบบนี้

      ทิฟฟานี่พูดต่อทั้งน้ำตา....

       

      ขอโทษที่ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตแท....จากนี้ฉันจะไม่ขอเรียกร้องอะไรอีก จะไม่ขอให้แทรับผิดชอบ.....และจะไม่ทำตัวงี่เง่าด้วย.......แต่แทอย่าเกลียดฉันเลยนะ.....

       

      แทยอนนิ่งอึ้งกับน้ำตาของสาวตายิ้ม อยากเข้าไปปลอบใจจะขาด แต่เพราะอารมณ์ที่คุกกรุ่นทำให้เธอพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจออกไป.....

       

      รู้ตัวก็ดีแล้ว…..เธอพูดแล้วนะว่าจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก......ทำให้ได้อย่างที่พูดด้วยแล้วกัน

       

      พูดจบแทยอนก็รีบใส่เสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินจากไป.....

       

       

      ทิ้งให้ใครอีกคนต้องนอนจมน้ำตาตัวเองพร้อมกับรอยแผลที่ไม่อาจหวนคืน....

       

       

        

      ปัง!!

      ละ....เลวที่สุด!!”

      ฉันว่าแกยิ่งกว่าเค้าอีกนะสิก้า....

      หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวที่ได้เล่ามาพอสังเขปแล้วเจสสิก้าก็พูดพร้อมทุบโต๊ะเสียงดังลั่น หากทิฟฟานี่ก็พูดขัดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก สาวผมบลอนด์จึงได้แต่หัวเราะแหะๆในลำคอแบบหวาดๆ

      บทจะโหดก็โหดจริงวุ้ย!!

      เอ่อ....ขอโทษตอนนี้ยังทันมั๊ยอ่ะ

      ช่างมันเหอะ

      ทิฟฟานี่บอกปัดๆอันที่จริงมันก็น่าโกรธอยู่ไม่หยอกเชียวแหละ เพียงแต่เธอก็มีส่วนผิดพอๆกันจึงไม่อาจจะว่าเป็นความผิดของเพื่อนสาวได้ทั้งหมด

      แล้วอีกอย่าง......ถ้าเขาไม่รักเราต่อให้ทำยังไงมันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดีล่ะนะ

      อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด......อะไรที่จะเสียก็ต้องเสีย

      ความรักบังคับให้เกิดไม่ได้....คงอยู่ที่ตัวเราว่าจะจัดการกับมันยังไงก็เท่านั้น

       

       

      เกินไปว่ะ ทั้งแกทั้งยัยมิยองของแกด้วย ทำไมทำอะไรไม่รู้จักคิดสักนิดนึงล่ะวะ””

      ยูริตำหนิเพื่อนสาวที่ใจนั่งเหม่อลอยไปไกลถึงใบหน้าของหญิงสาวที่โดนพึ่งทำร้ายจิตใจไปหมาดๆ เธอมองแทยอนอย่างไม่รู้จะช่วยยังไงดี เพื่อนเธอก็ผิด ส่วนอีกคนนึงก็ใช่ย่อย ต่อไปนี้จะเอายังไงก็คงต้องแล้วแต่เจ้าตัวเองแล้วล่ะ

      ทางฝั่งโน้นไม่ต้องพูดถึง.....คงตัดใจไปแล้วเรียบร้อย.....ก็โดนไปซะขนาดนั้นน่ะนะ

      เฮ้อ....แล้วแต่แกแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าฉันยุ่งอีก

      อันที่จริงแล้วพวกเธอไม่ได้อยู่ในห้องเรียนคาบแรกอย่างที่ควรเป็น เพราะแทยอนเกิดอยากอยู่คนเดียวขึ้นมา เธอจึงได้มาลองไต่ถามดูแล้วถึงได้รู้สาเหตุที่หมาน้อยมานั่งหงอยอย่างกับเจ้าของไม่ใส่ใจ

      ความรักนี่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ ทั้งที่เจ้าตัวก็แสดงอาการชัดขนาดนี้แล้วยังซื่อบื้อไม่รู้ว่ารักเค้ารึเปล่าเสียอีก ถ้าไม่รักจะมานั่งคิดมากให้รกสมองทำไมก็ไม่รู้ หรือบางทีชอบพูดถึงเค้าบ่อยๆแต่ก็ยังไม่รู้ตัว จะเรียกว่าบื้อหรือโง่ก็ไม่อาจทราบได้

      อยากอยู่ตรงนี้ก็อยู่ไปละกัน ฉันไปเรียนก่อนล่ะ วันนี้ทิฟฟานี่ก็อยู่ที่ห้องด้วย

      ก่อนที่ยูริจะได้ไปข้อมือของเธอแทยอนรั้งเอาไว้

       

      ......ไปด้วย….”

      แต่เค้าคงไม่อยากเห็นหน้าแกหรอกว่ะ

      แต่.....ฉันอยากเห็นหน้าเธอนี่

      แทยอนพูดพลางหลบตามองพื้น  ยูริเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้

      รู้ใจตัวเองแล้วรึไงห๊ะถึงอยากเจอเค้าอ่ะ

      ไม่รู้ก็คงต้องไปไถนาแล้วแหละ

      เออดี ด่าตัวเองก็เป็น ฮ่าๆ

      หยุดขำแล้วช่วยคิดหน่อยดิ ทำไงเธอถึงจะหายโกรธวะ

      แทยอนขมวดคิ้วมุ่นอย่างคิดไม่ตก ก็ทำร่างบางเสียใจขนาดนั้นจะเดินดุ่มๆไปขอโทษมันก็ยังไงอยู่

      เอาหูมานี่ๆ

      อ่าห๊ะ.....เออ....ความคิดดีวะ

      แทยอนหันไปยิ้มให้ยูริอย่างเจ้าเล่ห์

      จัดไปอย่าให้เสีย!!”

       

       

      ................................................ .

       

       

      “ยัยฟานี่ พรุ่งนี้จะวันเกิดแกแล้วอ่ะ อยากได้ไรป่ะ เดี๋ยวฉันซื้อให้”

      เจสสิก้าถามทิฟฟานี่ที่นั่งทำหน้าซังกะตายตั้งแต่เช้าจรดเย็น หวังว่าเรื่องงานวันเกิด จะทำให้ลืมเรื่องของยัยบ้าเตี้ยแทยอนนั่นไปได้ซักนิดก็ยังดี.....

      “อืม....อะไรก็ได้”

      สาวผมบรอนด์จิ๊ปากอย่างขัดใจ ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนเธอจะเป็นเอามากขนาดนี้ ปกติถึงวันเกิดทีไรก็ร้องจะเอาอันโน้นจะเอาอันนี้ให้เธอได้บ่นรำคาญบ่อยๆ  แล้วดูสิ พอโดนไอ้บ้านั่นทำร้ายจิตใจมาหน่อยก็ซึมกระทือเหมือนหมีอดน้ำผึ้งซะแล้ว

      “โอ๊ยยยยย หยุดทำหน้าแบบนี้สักทีได้มั๊ยห๊ะยัยหมีอ้วน! ฉันเห็นแล้วเซ็งแทน!

      “ก็มันไม่อยากได้อะไรนี่....”

      “ไม่มีจริงๆอ่ะของที่แกอยากได้ จริงๆนะ ถ้าแกอยากได้อะไรฉันจะเอามาให้หมดเลย ไถ่โทษที่ฉันทำให้แกต้องเสียใจ”

      “....”

      ทิฟฟานี่หันมามองเธออย่างชั่งใจ ก่อนจะยิ้มเศร้าๆ

      “วันเกิดปีนี้ฉันไม่อยากได้ของขวัญอะไรอีกแล้ว.....ยกเว้น......แทยอน”

       

       

       

      สามสาวหน้าตาดีทั้งหมดมารวมกันที่ร้านกาแฟใกล้ๆโรงเรียนของพวกเธอ ผู้ชายโต๊ะรอบๆหันมาจ้องกันตาเป็นมันเพราะความน่ารักที่มีอยู่ในตัวแต่ละคนสองประกายออร่าเหลือเกิน

      “แน่ใจแล้วนะว่าจะคุยกันที่นี่จริงๆ”

      “เออดิ ช่างหัวพวกที่มันมองไป สนใจแต่เรื่องของแกก็พอ”

      ยูริพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไร......แน่สิ ก็แกมันนักกีฬา แต่เราสองคนมันผู้หญิงบอบบางนะเว้ย

      “อืมๆ แล้วไงต่ออ่ะ”

      แทยอนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องมาอยู่ใกล้คนที่ได้ชื่อว่าเย็นชาอย่างเจสสิก้า ถ้าไม่ติดว่ายูริบอกให้มาปรึกษากับกับหล่อนเพราะว่าเป็นเพื่อนสนิทกับทิฟฟานี่แล้วล่ะก็ เธอคงจะไม่มีวันเฉียดเข้าใกล้คนที่มีออร่าน่ากลัวแบบนี้หรอก

      “ก็....สิก้าว่าไง”

      เธอแปลกใจเล็กน้อยที่ยูริดูสนิทกับเจสสิก้าเหลือเกิน ทั้งนัดมาที่ร้านนี่แล้วก็คำแทนตัวที่ดูเหมือนไม่ใช่คนที่เพิ่งเจอกัน

      “ก็พรุ่งนี้จะถึงงานวันเกิดยัยหมีแล้วใช่ม่ะ เราก็จะใช้โอกาสนี้ให้เป็นโยชน์ซะสิ”

      “ยังไงอ่ะ/ยังไงเหรอ”

      เจสสิก้ายิ้มที่มุมปากอย่างมีเลสนัย

      “เอาหูมานี่สิ”

       

       

       

      “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู~ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยูแฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูทิฟฟานี่~

       

      ทิฟฟานี่ยิ้มกว้างจนตาปิดเมื่อเพื่อนๆเอาเค้กมาเซอร์ไพร์เธอหลังเลิกเรียน

      แม้จะไม่มีแทยอน....เธอก็คงไม่เป็นอะไรหรอก

      “อธิฐานสิ”

      เจสสิก้าที่เป็นตัวต้นคิดงานวันนี้ยื่นเค้กที่ตกแต่งด้วยครีมสีชมพูของโปรดให้อย่างยิ้มๆ

      เธอจะขออะไรดีนะ....อะไรที่เธออยากได้ในตอนนี้มากที่สุด....ทิฟฟฟานี่ให้กับตัวเองอย่างขำๆ

      ไม่ผิดอะไรใช่มั๊ยที่ฉันจะขอให้ของขวัญปีนี้คือเธอ....คิมแทยอน

       

       

       

      งานเลี้ยงย่อมมีเลิกรา หลังจากที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปทุกคนในห้องก็พากันเก็บของกลับบ้าน เหลือไว้เพียงทิฟฟานี่กับเจสสิก้าที่เพิ่งจะเก็บของเสร็จ เธอกำลังจะเดินออกไปแต่ถูกเจสสิก้าดึงมือเอาไว้ก่อน เธอมองเจสสิก้าอย่างต้องการถามว่ามีอะไร?

      “ของขวัญที่เธออยากได้น่ะ....ไม่เอาแล้วเหรอยัยหมี?”

      “ ของขวัญ? ฉันก็ได้ของขวัญจากเธอแล้วหนิ”

      เจสสิก้าส่ายหน้าและยิ้มขำๆ พลางชี้ไปที่กล่องของขวัญขนาดใหญ่สูงประมาณเอวของเธอที่ตั้งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

      “ของขวัญสุดพิเศษชิ้นสุดท้ายในวันเกิดปีนี้ไงล่ะฟานี่ ลองไปเปิดดูสิ”

      ทิฟฟานี่เดินตามไปที่กล่องอย่างงงๆ เมื่อลองเปิดดูก็พบกับ......

      กระดาษหนึ่งใบ...ที่เขียนด้วยลายมือว่า....

       

       

       

      ไง ยัยมิยองขี้บ่น นอกจจะจะขี้บ่นแล้วยังขี้น้อยใจอีกต่างหาก วันเกิดปีนี้เป็นไงล่ะ สนุกมั๊ย? ของขวัญถูกใจบ้างหรือเปล่า? เฮ้อ....บางทีเธออาจจะมีความสุขโดยที่ไม่ต้องมีฉันก็ได้นะ แต่ฉันมันบ้าเองล่ะที่หวังว่าเธอคงต้องการจะให้ฉันอยู่ด้วย ฉันอยากเจอเธอนะ แต่กลัวว่าเธอจะยังโกรธคำพูดที่พูดไปอย่างไม่คิดวันนั้นอยู่ ....ถ้ายังโกรธ...ฉันขอโทษนะ :(

       ถึงตอนนี้แล้วเดาได้หรือยังว่าฉันเป็นใครเอ่ย?

       ถ้ายังก็จะบอกให้.....

        ลองเรียกฉันว่า แทแท สิ :)

       

       

      ทิฟฟานี่มองแผ่นกระดาษนั้นอย่างชั่งใจว่าจะทำตามดีหรือไม่....หันไปมองเจสสิก้าก็ไม่เห็นว่าเพื่อนของเธออยู่ในห้องนี้แล้ว.....ห้องที่มีแต่เธอ....ถ้าหากเรียกแล้วคนที่เธอหลงรักจะออกมาจริงๆหรือ?

       

      แท....แท

       

      ทุกอย่างยังคงเงียบสนิท....

      นี่ฉันหวังมากเกินไปใช่มั๊ย....เจสสิก้า...เธอเล่นอะไรกัน.....

      การเล่นตลกกับความรู้สึกของฉันมันสนุกมากหรือเปล่า?

       

      หมับ....

       

      ไง มิยอง.....

      เสียงหวานใสดังขึ้นข้างหูพร้อมกับความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วแผ่นหลัง.....

      ......

      ฉันขอโทษนะ.....

       

      คนในอ้อมแขนสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับเสียงสะอื้นที่พาลจะทำให้เธอร้องไห้ไปด้วย

      “….แทแทบ้า....ยัยเตี้ยนิสัยไม่ดี....ฮึก.....

      แทยอนยิ้มขำ.....ก่อนจะรวบรวมลมหายใจเพื่อที่จะเอ่ยมันออกไป

       

      ขอโทษ....แล้วก็.....รักนะ...

       

      91%

       

      ----------------------------------------------------------------

      แหะๆ มาอัพนิดนึงเพื่อจะลงตอนจบในครั้งต่อไป.....เค้าขอโทษนะ T^T

      รู้ตัวว่าหายไปนานมากจนชักจะไม่แน่ใจว่าจะมีคนอ่านอีก - -*

      ขอโทษจริงๆค่ะ ค่อนข้างยุ่งมากๆเลย

      ภาษาที่ใช้เขียนก็คงแปลกกว่าเก่านะคะ ยังอึนๆ @_@

      เม้นด้วยจะดีมากค่ะ T^T ซิกๆ

      ปล.37หน้ายาวป้ามาก -*- กว่าจะจบก็40หน้า เหอๆๆ

      ปล.2 เนื้อเรื่องแปลกมากเพราะลืมไปแล้วว่าจะแต่งต่อว่าไง O_O





       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×